Page 323 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 323

สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ” ด้วยการกล่าวค าสัตย์นี้ขอความสุขสวัสดีจงบังเกิดมีแก่

                                                                              ่
               ทุกท่าน มันเป็นค าสัตย์ มันเป็นจริง พระพุทธเจ้าก็ป่วย พูดชัด ๆ อยางนี้
                     ทีนี้ “เอกัสสะมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง” พระมหาโมคคัลลานะมีฤทธิ์มาก

               ที่สุด เหาะเหินเดินอากาศได้ ท่านก็ป่วยเหมือนกัน เพราะว่าสุขภาพนี้ มันประกอบ ดิน น้ า ลม ไฟ

                                                                                                     ่
               ธาตุมันย่อมช ารุด  แม้จะมีฤทธิ์มากเหาะเหินเดินอากาศได้  ก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งการเจ็บปวยได้
               ร่างกายเอ๋ยอย่าช ารุดนะ ร่างกายเอ๋ยอยางเป็นอย่างนั้นนะ ผมอย่าหงอก ตาอย่าฝ้าฟาง ฟันอย่าสึก
                                                    ่
               หรอนะ  ร่างกายทุกส่วนอย่าเหี่ยวหรือว่าอย่าเจ็บปวยนะ  มันเป็นไปไม่ได้  อย่างที่บอกไปแล้ว
                                                                ่
               พระพุทธเจ้าก็ทรงพระประชวร พระมหาโมคคัลลาฤทธิ์มากที่สุดก็ป่วยได้

                     ยังมีอีก  ในคราวหนึ่งพระมหากัสสะปะ  ก็ป่วยได้อีก  ไม่ใช่พระมหากัสสะปะนี่ท่านเคร่งครัด

               พระธรรมวินัยแต่ท่านก็ป่วยได้ เพราะฉะนั้น พระมหาโมคคัลลาเป็นตัวอย่าง พระมหากัสสะปะเป็น

                                       ็
                                                                  ่
               ตัวอย่าง พระพุทธเจ้าก็เปนตัวอย่าง ท่านแก้ไขยังไง ทานบอกว่า อาศัย “โพชฌังโค สติสังขาโต”
               อาศัยสติให้เป็นผู้ตื่นรู้ รู้อะไร รู้ธาตุ ดิน น้ า ลม ไฟ คือร่างกายของเรานี่ “สติสังขาโต” ให้มีสติทุก

               ส่วนในร่างกาย “ธรรมมานัง วิปโยคธาตุ” ก็คือให้วิจัยว่าส่วนใดที่มันเป็นโรค อย่าปล่อยให้มันเป็น

               นาน พระพุทธเจ้าไม่ปล่อยให้เป็นนาน ร่างกายรู้ว่าไม่สบาย ก็เริ่มสวดมนต์ พิจารณาดู ส่วนใดของ

               ร่างกาย วิจัยดูสิ มันส่วนหัว ส่วนปอด ส่วนตับ ส่วนไต ส่วนไหน “ธรรมมานัง วิริยัมปิ” เมื่อวิจัยแล้ว

                            ิ
               ตรงนี้ล่ะ “วิรยะ” คือวิจัยบ่อย ๆ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรที่คงทนถาวร
               พิจารณาอย่างนี้ วิริยะคือพิจารณาบ่อย ๆ เมื่อพิจารณาได้ที่ “ปัสสัทธิ” ปัสสทธิก็จะเกิดขึ้น ความ
                                                                                      ั
               สงบใจเกิดขึ้น ไม่ฟุ้งซ่าน ปีตินี่ พอปัสสัทธิเกิดขึ้น ปีตินี่ เอ็นโดรฟีน ภาษาอังกฤษว่า เอ็นโดรฟีนก็

               จะหลั่งออกมา พยายามพิจารณา ปีติเกิดความเบิกบานใจขึ้นมา เมื่อมีความเบิกบานใจความสุขใจ

               ก็เกิดขึ้น เมื่อความสุขใจเกิดขึ้นจิตก็ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว เป็นสมาธ พอเป็นสมาธิ จิตก็เข้าใจว่าร่างกาย
                                                                         ิ
                                                                                  ่
               มันเป็นอย่างนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ มันดับไป คือ “อุเบกขา” อุเบกขาคือรู้เทาทันจิต ไม่คิดปรุงแต่งว่า

               ร่างกายนี้มันเป็นอย่างนี้ ก็บอกแล้วว่า พระโมคคัลลานัญ มีอิทธิฤทธิ์มากทาไม ห้ามอย่าป่วย อย่า
               เจ็บ อย่าไข้ อย่าตาย ห้ามไม่ได้ เข้าใจ อุเบกขาแปลว่าความเข้าใจ ร่างกายมันเป็นอย่างนี้ ไม่มีใคร

               ทัดทานได้

                     เพราะฉะนั้น  มาท าความเข้าใจวา  ร่างกายนี้มันเปนอย่างนี้  เป็นอย่างนี้เป็นยังไง  เกิดขึ้น
                                                                     ็
                                                    ่
                                                                                        ิ
               ตั้งอยู่ ดับไป มันจะป่วย มันก็ต้องป่วย ถึงเวลา แต่ว่าเราแก้ไขได้ก็รีบแก้ไข ท าจตใจให้เบิกบาน “วิ
                           ั
               ริยัมปิ  ปัสสทธิ”  ก็คือ  มีจิตเบิกบานและความสงบใจเกิดขึ้น  สมาธิมันเป็นอย่างนี้  ตั้งมั่นแล้วไม่





                                                          ๓๒๓
   318   319   320   321   322   323   324   325   326   327   328