Page 186 - Efavirenz WHO PQ: A case study of a public-private collaboration
P. 186

Efavirenz WHO PQ: กรณีศึกษาความร่วมมือรัฐ-เอกชน ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพ   | 168





                              3. ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบคุณภาพขององค์การในอนาคต
                                  จากการผ่านการตรวจประเมินทั้งด้านทะเบียนต ารับยา และการตรวจประเมินสถานที่ 2

                       ครั้ง แม้การขอรับรอง WHO PQ จะเป็นการรับรองเป็นรายผลิตภัณฑ์ แต่ในการตรวจประเมินโดย

                       ผู้ตรวจจากกองค์การอนามัยโลก ได้ด าเนินการในลักษณะของการตรวจประเมินระบบบริหารจัดการ
                       คุณภาพที่บังคับใช้ทั้งองค์กร ซึ่งองค์การเภสัชกรรมด าเนินการแผนการแก้ไขป้องกันข้อบกพร่องตามที่

                       เสนอต่อ WHO PQ โดยการน าไปใช้ทั้งองค์กร มีการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการคุณภาพ การท า

                       เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และส่งเสริมคุณภาพให้สอดคล้องตามมาตรฐาน
                       WHO ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล ที่ได้รับการยอมรับในวงการเภสัชอุตสาหกรรม

                                  ซึ่งการตรวจประเมินใน ปี พ.ศ. 2562 เป็นการตรวจประเมินสถานที่ผลิตยาครั้งที่ 2

                       ตามก าหนดการขององค์การอนามัยโลก เพื่อติดตามความสอดคล้องตามมาตรฐานและข้อก าหนดของ
                       องค์การอนามัยโลก ซึ่งต้องตรวจประเมินทั้งอาคารสถานที่ ระบบสนับสนุน ห้องปฏิบัติการ

                       กระบวนการผลิต และที่ส าคัญที่สุดคือระบบบริหารจัดการคุณภาพของโรงงานที่อยู่ในโปรแกรมการ

                       ขอรับรอง WHO PQ โดยมีระยะเวลาการรับรองครั้งละ 3 ปี เพอพสูจน์ว่าโรงงานผลิตยายังคงมี
                                                                              ื่
                                                                                ิ
                       มาตรฐาน เป็นการประกันว่ายาทุกเม็ดที่ออกสู่ประชาชนมีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพใน
                       การรักษา

                                                         ี่
                                  จากการตรวจประเมินครั้งท 2 นี้ ส่งผลให้รายการยา Efavirenz Tablets 600 mg ของ
                       องค์การเภสัชกรรมยังคงอยู่ใน WHO Prequalified List ของ WHO จึงเป็นการยืนยันว่าองค์การ

                       เภสัชกรรมได้มีการพัฒนาและรักษามาตรฐานคุณภาพอย่างสม่ าเสมอเป็นอย่างดี

                                  นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2565 องค์การเภสัชกรรม มีแผนขึ้นทะเบียนรายการยาต้านไวรัส
                       เอชไอวี/เอดส์สูตรผสม 3 ชนิดในเม็ดเดียวกัน ประกอบด้วย ตัวยา Dolutegravir 50 mg /Tenofovir

                       DF 300 mg /Lamivudine 300 mg  พร้อมทั้งเตรียมรับการตรวจประเมินสถานที่ผลิตยาจากคณะ

                       ผู้ตรวจจากองค์การอนามัยโลก ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ในโปรแกรม WHO Prequalification
                       ซึ่งหากได้รับการรับรองก็จะเป็นยาอีกหนึ่งรายการที่ได้รับการรับรองในระดับมาตรฐานโลก
   181   182   183   184   185   186