Page 124 - แผนการสอน 62-1
P. 124
100
์
2. ช่วยลดก๊าซคารบอนไดออกไซด์ในสภาพแวดล้อม
ี
ุ
่
ื
่
์
ื
ิ
ื
3. ช่วยเพิ่มความช่มช้นและไอน ้าให้บรรยากาศเนองจากผลผลตทได้จากการสังเคราะหด้วยแสงคอ น ้า
้
่
ื
4. เปนทเก็บสะสมพลังงานในรปแบบของแปงในเน้อเยื้อพืช เมอคนหรอสัตว์กินพืชเข้าไปก็จะท าให้ม ี
่
ี
ู
ื
็
ื
พลังงานไปใช้ในการด ารงชวิต
ี
้
์
่
ิ
ิ
ื
่
ื
็
5. เนองจากพืชเปนผู้ผลตอาหารชั้นท 1 ในระบบนเวศ การสรางอาหารคอ การสังเคราะหด้วยแสง
ี
ึ
่
ิ
ุ
นั้นเอง ซงท าให้เกิดการถ่ายทอดพลังงาน ในระดับต่างๆในระบบนเวศ และท าให้เกิดสมดลของระบบนเวศ
ิ
ึ
ข้น
ี
สาระการเรยนรู ้
ความรู ้
ี
์
่
ี
ี
ี
ิ
ิ
ความส าคัญของกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงของพืชทมต่อส่งมชวิตและส่งแวดล้อม
ู
ุ
ิ
ิ
1. เปนแหล่งอาหารและแหล่งพลังงานทส าคัญของส่งมชวิตทกชนด เนองจากพืชสเขยวได้ดดน ้า
ี
่
ี
ี
่
ื
ี
็
ี
ิ
้
ู
์
รบแก๊สคารบอนไดออกไซด์ และดดพลังงานแสงจากดวงอาทตย์ไปสรางสารอาหารพวกน ้าตาลและ
ั
ึ
ี
ิ
สารอาหารน้สามารถเปลยนแปลงไปเปนสารอาหารอน ๆ ได้ เช่น แปง โปรตน ไขมัน ซงส่งมชวิตได้
็
่
ี
้
ี
ื
่
่
ี
ี
ี
่
น าไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการต่าง ๆ ของชวิต จงถอว่าสารอาหารเหล่าน้เปนแหล่งพลังงานทส าคัญของ
ี
ี
ึ
ื
็
ี
ี
ส่งมชวิตทกชนด
ุ
ิ
ิ
่
2. เปนแหล่งผลตแก๊สออกซเจนทส าคัญของระบบนเวศ โดยแก๊สออกซเจนเปนผลทเกิดจาก
็
ี
ิ
ี
ิ
ิ
่
็
ิ
ิ
่
ุ
ิ
็
ี
ี
ิ
ึ
่
์
กระบวนการสังเคราะหด้วยแสงของพืช ซงแก๊สออกซเจนเปนแก๊สทส่งมชวิตทกชนดต้องน าไปใช้ในการ
ี
่
ื
้
สลายอาหาร เพือสรางพลังงานหรอใช้ในกระบวนการหายใจนั่นเอง
ิ
ิ
ุ
็
3. ช่วยลดปรมาณแก๊สคารบอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ เพราะพืชต้องใช้แก๊สน้เปนวัตถดบในการ
ี
์
ี
สังเคราะหด้วยแสง โดยปกตแก๊สชนดน้เปนแก๊สทไม่มส ไม่มกล่น มอยู่ในบรรยากาศประมาณ 0.03%
็
ี
์
ี
ี
ี
ี
ิ
ิ
่
ิ
ิ
่
ุ
ื
ุ
ี
ั
เท่านั้น แต่เนองจากในปจจบันการเผาไหม้เช้อเพลงเพือการอตสาหกรรมต่าง ๆ ของมนษย์มมากข้น จงท าให้
ึ
ึ
่
ื
ุ
ึ
ิ
ึ
ี
ี
่
ี
ึ
ิ
มแก๊สชนดน้เพิ่มมากข้นด้วย สัดส่วนของอากาศทหายใจจงเสยไป ท าให้ได้รบแก๊สออกซเจนน้อยลง จงเกิด
ั
ี
ิ
ี
์
ี
อาการอ่อนเพลย และแก๊สชนดน้ยังท าให้โลกของเรามอณหภมสงข้นเรอย ๆ เรยกว่า ปรากฏการณเรอน
ื
ู
ิ
ู
ึ
่
ื
ี
ุ
ี
่
ึ
กระจก (Green House Effect)ดังนั้นจงควรช่วยกันปลกพืช และไม่ตัดไม้ท าลายปา เพือลดปรมาณแก๊ส
ิ
่
ู
คารบอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ
์
ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1. การจัดกระท าและสอความหมายข้อมล
ู
ื่
2. การลงความเหนจากข้อมูล
็
ู
ี
ุ
3. การตความหมายข้อมลและลงข้อสรป