Page 228 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 228

218



                       มีจิตอาสาในการรับผิดชอบการด าเนินงาน นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเกษตร (2541) กล่าวถึงบทบาท
                       ผู้น ากลุ่ม คือ บุคคลที่มีบทบาทชัดเจนในกลุ่มที่จะท าหน้าที่เป็นนักพัฒนาเป็นผู้ประสานงานเพื่อตอบสนอง
                       ความต้องการของสมาชิกให้บรรลุเปูาหมายที่ก าหนด และพิมาน วงศ์อภัย (2533) ที่พบว่า ปัจจัยที่
                       ส่งเสริมให้องค์กรประชาชนพึ่งตนเองได้มีหลายปัจจัยที่สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ ได้แก่ 1) ผู้น าหรือ

                       กรรมการ ในด้านลักษณะของผู้น าของฝุายบริหาร เช่น ความตั้งใจจริง ความซื่อสัตย์ และการยอมรับ
                       ความคิดเห็นของสมาชิก บทบาทการท างาน เช่น การให้ข้อมูลข่าวสาร เป็นที่ปรึกษาแก่สมาชิก
                       ตลอดจนความสามารถในการชักน าผู้อื่น และในการท างานต้องเข้มแข็งและ มีประสิทธิภาพ 2) การ
                       บริหารศูนย์ ในการจัดโครงสร้างการท างาน การสร้างเครือข่าย ระบบการสรรหากรรมการ การวาง

                       ข้อก าหนดระเบียบต่างๆ เกิดจากการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง หาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่าง
                       กรรมการและสมาชิกอย่างช้าๆ ต่อเนื่อง องค์กรแต่ละส่วนล้วนช่วยส่งเสริมระบบ การบริหาร จึงท าให้
                       แบบแผนต่างๆ ค่อนข้างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ 3) สมาชิกศูนย์ ส่วนใหญ่มีทัศนคติและเข้า
                       วัตถุประสงค์ของศูนย์ดี อาจมีปัญหาบ้างในพื้นที่ห่างไกลซึ่งได้รับรู้ข่าวสารน้อย และสมาชิกต้องเข้ามา

                       มีส่วนร่วมคิดค้นปัญหา วางแผน และด าเนินงานสม่ าเสมอ 4) กระบวนการกลุ่ม สมาชิกส่วนใหญ่เข้า
                       ร่วมกลุ่มเพราะต้องการท างานกลุ่มมากกว่าจะหวังรับผลประโยชน์ การสรุปบทเรียนของกลุ่มที่ผ่านมา
                       ในอดีตนั้น กรรมการกลุ่มต่างๆ มีการปฏิบัติทั้งระดับศูนย์บริการนิคมฯ และหมู่บ้านสาขาอย่างสม่ าเสมอ

                       และ 5) องค์กรที่สนับสนุนมีความยืดหยุ่นในด้านเวลางบประมาณสูงและให้อิสระแก่ผู้ปฏิบัติงาน
                       ภาคสนามอย่างเต็มที่ในการดูความพร้อมของกลุ่มเปูาหมาย
                                 2.2 ผลิตสื่อส าหรับส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างความตระหนักในการจัดการภัยพิบัติ
                       ที่เกิดจากการกัดเซาะชายฝั่ง
                                     การผลิตสื่อวีซีดี จากงานวิจัยในครั้งนี้โดยแหล่งข้อมูลในการผลิตสื่อได้มาจากการ

                       สอบถามถึงความรู้ความเข้าใจและความต้องการด้านการกัดเซาะชายฝั่ง และการปูองกันการกัดเซาะ
                       ชายฝั่งของชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ โดยพบว่า ชาวบ้านมีความรู้ความเข้าใจด้านการกัดเซาะชายฝั่ง และ
                       การปูองกันการกัดเซาะชายฝั่งอยู่ในระดับปานกลาง มีความรู้ความเข้าใจมากในเรื่องปุาชายเลน

                       ผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่ง และด้านกระแสน้ า จากการสอบถามเบื้องต้นจึงได้ท าการจัดประชุม
                       กลุ่มในแต่ละพื้นที่ และการสัมมนาแบบมีส่วนร่วมเพื่อก าหนดหลักสูตรและเนื้อหาวิชาการเพื่อจัดท า
                       สื่อการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักที่ได้จากการถอดบทเรียน ได้ด าเนินการถ่ายท า
                       สถานที่จริง การสัมภาษณ์ผู้น าชุมชน และปราชญ์ชาวบ้าน เอกสารและสื่อของกรมทรัพยากรทางทะเล

                       และชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท าการบันทึกภาพและบันทึก
                       เสียงในแผ่นวีดิทัศน์ (CD)  ภายใต้ชื่อ “ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การจัดการการกัดเซาะชายฝั่ง”
                       โดยมีทั้งหมด 4 แผ่น แต่ละแผ่นประกอบด้วยเนื้อหาวิชาดังนี้ แผ่น 1 สถานการณ์และการจัดการการ
                       กัดเซาะชายฝั่ง ประกอบด้วย วิชาสถานการณ์และผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่งระดับท้องถิ่น ประเทศ

                       โลก วิชาแนวคิด หลักการ วิธีการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และวิชาการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะ
                       ชายฝั่งโดยการปักไม้ไผ่  แผ่น 2  วิชาการจัดการชุมชนและเครือข่ายการแก้ปัญหาการกัดเซาะ
                       ชายฝั่ง แผ่น 3 ถอดบทเรียนชุมชนในการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งจังหวัดสมุทรสาคร และแผ่น 4
                       ถอดบทเรียนชุมชนในการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งจังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา

                       และชลบุรี
   223   224   225   226   227   228   229   230   231   232   233