Page 14 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 14
๘
พอดีคราวนี้ จะเป็นการบังเอิญหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ ท่านได้พบบรรดาสัตว์นรกทั้งหลาย
กําลังถูกผู้คุมเอาหอกทิ่มแทงอย่างไม่ปรานีปราศรัยแทงซ้ําแล้วซ้ําอีก อย่างไม่เลือกที่ จนเลือดทะลัก
้
ไหลนองท่วมพื้น และบรรดาสัตว์ผู้น่าสงสารเหล่านั้น ต่างก็ร้องโอดโอยลั่นขึ้นดวยความเจ็บปวดอย่าง
แสนสาหัส ท่ามกลางการนั่งมองอย่างชอบอกชอบใจของยมบาล เจ้าแห่งนรก ท่านจึงแวะเข้าไปถาม
ยมบาลว่า
"นี่แน่ะท่าน ท่านคือยมบาลใช่ไหม?"
"ถูกแล้ว พระคุณเจ้า" ยมบาลตอบ "ข้าพเจ้าคือพระยายมราช หรือที่ใครๆเรียกกันติดปากว่า
ยมบาลนั่นแหละขอรับ"
"อาตมาอยากจะถามท่านสักหน่อยว่า ทําไมท่านโหดเหี้ยมเหลือร้ายนัก พวกผู้คุมลงโทษสัตว์
นรกอย่างไม่ปรานีปราศรัย แต่ท่านกลับนั่งดูเฉย ไม่เห็นห้ามปรามอะไรเลยยังงี้เล่าท่าน"
ั
ยมบาลหัวเราะ ราวกับว่าคําถามนั้น ทําให้เขาขบขนเสียเต็มประดา "พระคุณเจ้าถามอะไรก็ไม่
ทราบ ความจริงข้าพเจ้าไม่ได้โหดร้ายอะไรเลยสักนิด มีแต่เมตตาปรานีอย่างมากที่สุด"
"ท่านพูดเป็นเล่นไปได้" พระมาลัยหัวเราะออกมาด้วยความขบขนเหมือนกัน "นนะหรือคนที่มี
ี่
ั
ี้
่
ั
เมตตาปรานี เห็นคนถูกเฆี่ยนตีทิ่มแทงจนเลือดท่วมตว ดิ้นรนทุรนทุรายเหมือนปลาถูกทุบหัวเชนน
กลับนั่งเฉยเหมือนเป็นทองไม่รู้ร้อน อาตมาว่าท่านใจดําเป็นหมึกมากกว่านะท่านนะ"
้
"ขอพระคุณเจ้าอย่าไดเข้าใจผิดอย่างนั้นเลยขอรับ" ยมบาลอธิบาย "ทุกอย่างมันเกิดจากกรรม
ที่สัตว์พวกนั้นก่อไว้เองทั้งนน พระคุณเจ้า และกรรมนั่นเองแหละที่ทําร้ายตัวเขาอยู่ขณะนี้ ใครจะห้าม
ั้
ั้
ปรามหรือคัดค้านทัดทาน ช่วยเหลืออย่างไรก็ไม่ได้หรอก ใครทําไว้อย่างไร ต้องได้อย่างนนขอรับ"
"ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่ได้เรียกว่าท่านมีเมตตาปรานีอย่างที่สุดอยู่ดี" พระมาลัยติดใจสงสัยเรื่องความ
้
เมตตาปรานีของยมบาลอยู่ "เพราะเมื่อท่านช่วยเหลืออะไรเขาไม่ได แล้วทําไมต้องคุยว่ามีเมตตาปราน ี
ด้วยเล่า?"
"อ๋อ! ข้อนั้นข้าพเจ้ายังไม่ได้อธิบายถวายพระคุณเจ้า" ยมบาลรีบสาธยายต่อไป "ความจริงตาม
ั่
กฎของนรกระบุไว้ว่า เมื่อคนที่ตายมาแล้วถึงทนี่ ข้าพเจ้าจะให้สุวานเปิดดูบัญชความดี ความชวที่เขา
ี่
ี
์
ทําไว้ ใครทําความดีไว้มากก็จะส่งไปบนสวรรค