Page 19 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 19
๑๓
"แหม! น่าสงสาร นี่เป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเขาแท้ๆ" พระมาลัยครางเสียงเศร้า
"แล้วนี่ เมื่อไหร่พวกเขาจะพ้นกรรมเสียทีเล่า ท่าน"
"ก็หลายปีขอรับ ทั้งนี้ต้องแล้วแต่กรรมที่เขาทําไว้ มากหรือน้อยเท่าใดเป็นเกณฑ์ ใครทําไว้มาก
ก็ต้องรับโทษนาน ใครทําน้อยก็รับโทษไม่นาน โดยการตายแล้วเกิด มาถูกโยนเข้าไปในภูเขายนต์อีก
ี่
เช่นนี้อยู่เรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นกรรม เออ นิมนต์ไปดูทอื่นเถอะขอรับ ยังมีอีกแยะเดี๋ยวจะไม่ทั่ว"
ยมบาลว่าพลางเดินนําหน้าพระมาลัย ไปยังแดนทรมาณแห่งต่อไป
สักครู่ก็มาถึงหน้าประตูบานใหญ่ ซึ่งปิดสนิทอยู่ ตรงกลางกําแพงเหล็กมหึมา ที่ล้อมรอบ
ั้
บริเวณภายในประตูนนไว้อย่างมิดชิด และมั่นคงแข็งแรงทั้งสี่ด้าน หลังจากกําป๎้นอันใหญ่ของยมบาล
เคาะกึกๆ ที่บานประตูสองครั้ง บานเหล็กใหญ่ก็เผยออกต้อนรับ และทันทีที่ยมบาลก้าวนําหน้าเข้าไป
ู
ปิศาจร่างผอมกระหร่องผิวดําสนิท ราวกับถ่าน ซึ่งเฝูาอยู่ด้านในประต ก็ผุดลุกขึ้นแสดงความเคารพ
เจ้าแห่งนรกอย่างรวดเร็ว
ยมบาลพยักหน้านิดหนึ่ง แล้วเดนนําหน้าพระมาลัยเข้าไปข้างใน ชั่วครู่ก็มาถึงขอบสระน้ําอัน
ิ
กว้างใหญ่ และเปี่ยมด้วยน้ําใสสะอาดดุจตาตั๊กแตน พอดีขณะนั้น ปศาจร่างใหญ่สองสามคน กําลังจับ
ิ
สัตว์นรกลงกลางสระอย่างไม่ปรานีปราศรัย สัตว์นรกได้แต่ร้องโอดโอยเรียกให้ช่วยลั่น ครั้นแล้วเมื่อ
ร่างของมันโครมลงน้ํา เสียงร้องก็เงียบหายไป และสักครู่ร่างของมันก็ลอยทื่อขึ้นมาอยู่บนผิวน้ําอย่าง
ไร้ชีวิตจิตใจ
มิใช่แต่เพียงเท่านั้น ยังมีอีกหลายตนซึ่งถูกจับโยนลงในสระ และดับดิ้นสิ้นใจ พาร่างลอยขึ้นมา
เหนือน้ําเช่นเดียวกัน
"ที่นี่เรียก สีตละนรก พระคุณเจ้า" ยมบาลอธิบาย"หมายถึงนรกที่มีน้ําเย็นที่สุดกว่าแห่งใด
ทั้งสิ้น หากจะเรียกให้ทันสมันหน่อยก็ว่า แดนน้ําเย็นมหาภัย ขอรับ
"แล้วพวกสัตว์นรกทํากรรมอะไรไว้ จึงได้มารับโทษที่นี่เล่า?" พระมาลัยซักต่อไป
"สัตว์นรกพวกนี้ เมื่อชาติก่อน ชอบผลักคนหรือสัตว์ให้ตกไปจมน้ําตาย โดยเห็นเป็นของ
สนุกสนาน หรือเกมกีฬา อย่างใดอย่างหนึ่งนั่นแหล พระคุณเจ้า" ยมบาลตอบ แล้วพาพระเถระออก
จากแดนน้ําเย็นมหาภัย ไปดูที่อื่นต่อไป