Page 23 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 23
๑๗
ื
ฉับพลันทันใดที่ถูกพาไต่ขนไปยนอยู่หน้าศาลาหลังนั้น พระมาลัยก็เหลือบไปเห็นมีถาดอาหาร
ึ้
อันโอชารส ส่งกลิ่นหอมฟุูง ตั้งเรียงรายอยู่เต็มตามความกว้างขวางและโอ่โถงของมัน
้
ซึ่งอาหารเหล่านี้จัดไว้สําหรับใคร ไม่สามารถจะทราบหรือเดาไดถูก และชั่วขณะที่เต็มไปด้วย
ความแปลกใจสงสัย ของพระเถระนั่นเอง ก็มีสัตว์นรกรูปร่างผอมโซฝูงหนึ่ง วิ่งกรูกันเข้ามาในศาลานั้น
โดยไม่ทราบว่ามาจากทิศทางใด และสัตว์พวกนั้นต่างพากันตรงเข้าหาสํารับกับข้าว ที่ตั้งเรียงรายอยู่
นั้น ตัวไหนที่ล้าหลังมาไม่ทัน ต้องใช้วิธียื้อแย่งจากเพื่อน ปราศจากความเกรงอกเกรงใจใดๆทั้งสิ้น
ฝุายตวที่ถูกแย่งก็พยายามต่อสู้ปูองกัน มิให้ถ้วยชามอาหารซึ่งตน กําลังกินอยู่อย่างเอร็ดอร่อย
ั
ุ
นั้นหลุดลอยไปจากมือเป็นการใหญ่ แต่ยิ่งต่อสู้ปูองกันเท่าใด เหมือนยิ่งย อ้ายตัวนักแย่งยิ่งรุกหนักขึ้น
เอาไปเอามาเกิดศึกชิงอาหาร สัตว์นรกเหล่านั้นต่างแย่งถ้วยชามขนขว้างปา และโผนเข้าทุบต่อยเตะต ี
ึ้
กันอุตลุด
ฝุายยมบาลเมื่อเห็นเหตุการณ์รุนแรงเชนนน ก็ส่งให้ผู้คุมเข้าห้ามปรามอย่างทันควัน
่
ั้
ั้
ั
หลังจากหวดแส้และประเคนฆ้อนเหล็กตัวนนตวนี้อยู่ชั่วขณะ ศึกชิงอาหารก็สงบราบคาบลงด้วย
การลงไปหมอบราบคาบแก้ว เป็นแถว อยู่กับภาคพื้นของเหล่าสัตว์นรกผู้อดโซ ทั้งสองมือที่ยกขึ้นพนก
ศีรษะและเนื้อตัวของพวกมัน ตกอยู่ในอาการสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวต่อโทษทัณฑ์ที่จะได้รับ
เพราะความผิดครั้งนี้ เป็นที่สุด
กล่าวกันว่า กฎหมายในเมืองนรกนั้น มีการลงโทษสัตว์นรกอย่างหนึ่ง สําหรับความผิดที่บังอาจ
ไปก่อขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นการลักขโมย แย่งชิงวิ่งราวข้าวของกัน หรือทะเลาะวิวาทต่อตีกัน ไม่ว่าหนัก
หรือเบา น้อยหรือมาก นอกเหนือไปจากโทษทัณฑ์ที่จะพึงได้รับจากผลกรรมแล้ว
นั่นก็คือ วิธีที่พวกผู้คุมจับมามัดแล้วใช้ฆ้อนเหล็กทุบตี จนกระทั่งทนเจ็บปวดทรมานไม่ไหว สลบ
ไปแล้วเอาน้ํารดให้ฟื้นคืนมา และกระหน่ําตีต่อไปจนสลบไปอีก
ทําอย่างนี้ถึงสามครั้ง ฟื้นสาม-สลบสาม เรียกกันว่า "สามสลบ" ถูกแล้ว อันวิธีสามสลบนี้ เหล่า
สัตว์นรกต่างเขดขยาด หวาดกลัวกันเหลือเกิน บางรายถึงบอกว่า ถ้าจะให้เปลี่ยนเอาอย่างอื่นที่หนัก
็
ี้
่
ี
หนากว่าน เชนกรอกน้ําทองแดง หรือเข้าเครื่องบด มันยินดทีเดียว