Page 27 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 27
๒๑
อย่างไรก็ดี ยังมิทันที่สัตว์นรกผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นจะพ้นไปจากสวน ในขณะนั้น บังเกิดมี
กําแพงเหล็กใหญ่ลุกโชนด้วยเปลวไป ผุดขึ้นมาจากพื้นดินขวางหน้า พวกมันไว้อย่างฉับพลัน ไม่ผิด
ี
อะไรกับฝูงสัตว์น้อยใหญ่ ในปุาที่ถูกนายพรานผู้ฉลาด สกัดกั้นการหนีของพวกมันไว้ด้วยวิธเผาปุา ให้
ั้
ลุกลามขึ้นข้างหน้า ในขณะที่ให้พวกของตนคนหนึ่งคนใดไล่ยิงมาฉะนน
ี
หมดสิ้นกันท สําหรับหนทางจะวิ่งหนีไป ครั้นจะย้อนกลับมาอีก หอกดาบก็ยังพุ่งตามมาราวกับ
ห่าฝน ดูเหมือนชั่วขณะนั้น เหล่าสัตว์นรกผู้น่าสงสารจะมองไม่เห็นวิธีใด ดีไปกว่าการตะเกียกตะกาย
เลียบไปตามกําแพงเหล็กมหึมานั้นต่อไป เพื่อบางทีจะได้พบช่องทาง พอโผล่พ้นออกไปจากสวน
มะม่วงอุบาทว์นี้บ้าง แม้ว่า ความยาวของกําแพงจะเหยียดยาวออกไปจนสุดลูกหูลูกตา และมองหา
ี
ที่สุดไม่เห็นก็ตามท
ั้
ั
แต่ฉับพลันนนเอง เหตุการณ์ที่เหลือเชื่อยิ่งกว่าที่เกิดขนแล้ว ก็อุบัติขน สุนขตัวใหญ่ขนาดเท่า
ึ้
ึ้
ช้างสาร มีเขี้ยวยาวโง้งออกมาจากปาก นัยน์ตาทั้งสองโตเท่าไข่ห่านนั้น ลุกวาวอย่างน่ากลัว ๕ ตัว
พอดิพอดี วิ่งมาจากทิศทางใดไม่ทันเห็น
และทั้งหมดทะยานเข้าใส่สัตว์นรกพวกนั้น เหมือนเสือร้าย ที่กําลังกระหายหิว ต่างตัวต่างกระ
โดยเข้าขย้ําค้ําคอเหยื่อของมันให้ด่าวดนลงสู่ภาคพื้น และกัดกินเลือดเนื้ออย่างเอรดอร่อย ท่างกลาง
็
ิ้
เสียงร้องโอดโอย และพยายามดิ้นรนทุรนทุราย หนีพวกสัตว์นรกอย่างสุดแรงเกิด
ยิ่งไปกว่านน ในช่วงเวลาต่อมาไม่ถึงอึดใจ ยังมิทันที่สุนัขพวกนนจะกินอิ่ม ก็มีแร้งใหญ่ขนาดเท่า
ั้
ั้
เรือนเกวียนโถมถลาลงมาจากอากาศ ขับไล่สุนัขทั้งหมด ให้หนีไป แล้วจิกทิ้งกินเนื้องสัตว์นรกเหล่านั้น
จนเหลือแต่กระดูกในพริบตา
"ที่นี่มีชื่อว่า แดนหอกดาบร่วง ขอรับ พระคุณเจ้า" ยมบาลสาธยาย "สัตว์นรกต้องมาเสวยทุกข ์
ทรมาณอยู่ในดินแดนนี้ แต่ชาติก่อนได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตด้วยการเป็นพลานล่าเนื้อ ไล่ต้อน ทิ่มแทงสัตว์
อื่น ด้วยหอก และเอาไฟเผาปุา ครอกสัตว์ตายอย่างทารุณโหดร้าย พระคุณเจ้า"
"แหม! น่าอัศจรรย์แท้" พระมาลัยพึมพําเบาๆ
้
"ยังมีที่น่าอัศจรรย์กว่านี้มากขอรับ นิมนต์ตามขาพเจ้ามาเถอะ ข้าพเจ้าจะพาไปดู" ว่าพลาง
ยมบาลก็รีบเดิน ออกหน้าพระเถระไปยังแดนอื่นโดยไม่รอช้า