Page 25 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 25
๑๙
นรกผู้อดโซ ก็พากันลงมือตักข้าวปลาอาหารใส่ปากอย่างไม่รีรอ แต่ระมัดระวัง ไม่ให้มือไม้ของตน
ึ้
เผลอไปยื้อแย่งกันและกันอย่างเมื่อกี้เป็นที่สุด เดี๋ยวจะเกิดศึกชิงอาหารถึงขั้นตะลุมบอนกันขนอีก
ั้
อย่างไรก็ดี ตลอดเวลาที่กําลังตักข้าวปลาอาหารกินนน พวกมันต่างนึกขอบคุณต่อพระผู้เป็นเจ้า
่
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เมตตาชวยดลบันดาลให้เหตุการณ์ครั้งนี้ เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี แทนที่จะถูก
ลงโทษทัณฑ์ แต่กลับได้กินอาหารอย่างดีโอชารสเช่นน ี้
ครั้นแล้ว โดยไม่มีใครนึกฝ๎นว่าเหตุการณ์ที่เปลี่ยนจากร้ายกลายมาเป็นดีแล้วนั้น จะย้อนกลับมาเป็น
ี
ั้
ร้าย และร้ายยิ่งกว่าเดิมอีก พอข้าวปลาอาหารเหล่านนถูกเคยวกลืนเข้าไปในท้องเพียงครู่เดยว ก็กลับ
ี้
กลายเป็นก้อนเหล็กแดงไหม้ เอาไส้พุงขาดกระจุยกระจายออกมา ท่ามกลางความเจ็บปวดและร้อง
ครวญคราง อย่างสุดเสียงของพวกมัน จนในที่สุดต่างก็หงายตึงลงฟาดพื้นสิ้นใจไป อย่างน่าสมเพท
เวทนา ทิ้งไว้แตชามข้าวที่พึ่งจะกินเข้าไปไม่ทนไร
่
ั
นี่เอง ความเมตตาปรานีที่เอิบอาบซ่านใจ ซึ่งพวกมันคิดว่าได้รับจากพระผู้เป็นเจ้าและสิ่ง
ศักดิ์สิทธิ์ ความจริง มันเป็นการใช้ไม้นวม เพื่อหลอกให้พวกมันกินข้าวปลาอาหารเข้าไป จะได้ไหม้ไส้
พุงแตกทลายออกมา ตามความประสงค์ของยมบาลโดยแท ้
ั้
"ทําไมท่านโหดร้ายอย่างนนเล่า ยมพบาล?" พระมาลัยท้วง "ทานรู้ว่าอาหารเหล่านี้เป็นก้อน
่
เหล็กแดง ยังอุตส่าห์หลอกให้พวกนี้กินเข้าไปได?"
้
่
"มิใชข้าพเจ้าหลอกพวกเขาดอกขอรับ" ยมบาลตอบ "กรรมแตชาติก่อนต่างหากหลอกพวกเขา-
่
ชาติก่อนน พวกเขาเป็นข้าราชการ ทํางานเพื่อบําบัดทุกข์ บํารุงสุขประชาชน แต่กลับทุจริตคิดมิชอบ
ี้
ฉ้อฉลเอาทรัพย์สินตลอดจนข้าวปลาอาหาร จากประชาชน มาบํารุงกระเพาะตนเอง โดยมิไดคํานึงถึง
้
ความเดือดร้อนของใคร เขาถือว่ายังไง ขอให้เราได้กินอิ่มไปตลอดชาติก็แล้วกัน ในที่สุดเลยต้องมาอด
อยากปากแห้ง มองเห็นก้อนเหล็กแดงเป็นอาหารโอชะไปเช่นนี้แหละ พระคุณเจ้า"
ยมบาลพูดจบ ก็รีบพาพระเถระเดินออกจากที่นนไปทนที ไม่ยอมให้ท่านได้ถามอะไรอีกต่อไป
ั่
ั
เพราะเวลามีน้องเกรงจะไปไม่ทั่ว
ไม่ช้าก็มาถึงสวนใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยตนมะม่วงนานาชนิด และต้นสูงใหญ่ และดกหนก
้
ด้วยกิ่งใบ ต่างกับมะม่วงธรรมดา เรียงรายเป็นทิวแถว ยาวสุดลูกหูลูกตา อยู่ในอาณาบริเวณอันโล่ง