Page 28 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 28
๒๒
ต่อมา ก็มาถึงที่โล่งแห่งหนึ่ง ซึ่งแลเห็นแม่น้ําเหยียดยาวขวางกั้น เป็นเส้นขนานอยู่เบื้องหน้า ทั้ง
้
สองฟากฝ๎่งมีเครือหวายอันใหญ่มหึมา เท่าตนมะพร้าวขนาดเขื่องขึ้นสลับซับซ้อน และเกี่ยวพันกันเต็ม
ไปหมด แทบจะไม่มีเถาวัลย์ หรือ พันธุ์ไม้ใดๆเจือปน ราวกับมีคนหนงคนใด จงใจมาปลูกไว้ฉะนั้น
ึ่
แต่ยังมิทนที่จะได้ถึงคาคบ ก็บังเกิดมีลมพัดแรงขนอย่างกําหนด หมายไม่ได้ว่ามาจากทิศทางใด มัน
ึ้
ั
พัดมาต้องใบมะม่วงทั้งหลายให้ร่วงหล่นลงมา กลับกลายเป็นหอกดาบอันคมกล้า พุ่งลงมาเสียบหน้า
เสียบหลังสัตว์นรกพวกนั้นอย่างรวดเร็ว ราวกับห่าฝน ยังผลให้พวกมันหกคะเมนลงมาสู่ภาคพื้น
พร้อมทั้งส่งเสียงร้องลั่น ด้วยความเจ็บปวด ตัวไหนที่ยังไม่ขาดใจ พอทรงกายลุกขึ้นได้ ก็
พยายามตะเกียกตะกายหนีอย่างสุดแรง บางตัวที่ยังมีแรงมากกว่าเพื่อนหน่อย ก็ร้องตะโกนมาบอก
พรรคพวก ซึ่งอยู่เบื้องหลังว่า "หนีเร็ว พวกเรา ไอ้ใบมะม่วงนี่ กลายเป็นหอกดาบเล่นงานเราเสียแล้ว
เร็วหนีเร็ว"
ปากตะโกนพลาง เท้าจ้ําอ้าวกลับไปตามทางที่เข้ามา หมายจะให้พ้นจากสวนมะม่วงอุบาทว์น ี้
โดยเร็วที่สุด ฝุายพรรคพวกผู้อยู่เบื้องหลังที่ยังไม่ได้สติสตัง พอได้ยินเช่นนั้น ก็รีบถลันลุกพรวดพราด
วิ่งตามมา บางตัวแม้จะแขนขาดด้วนไป เพราะหอกดาบแล่นมาต้อง แต่ก็ยังพยายามยันกายวิ่งมาด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมิทันที่สัตว์นรกผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นจะพ้นไปจากสวน ในขณะนั้น บังเกิดมี
กําแพงเหล็กใหญ่ลุกโชนด้วยเปลวไป ผุดขึ้นมาจากพื้นดินขวางหน้า พวกมันไว้อย่างฉับพลัน ไม่ผิด
อะไรกับฝูงสัตว์น้อยใหญ่ ในปุาที่ถูกนายพรานผู้ฉลาด สกัดกั้นการหนีของพวกมันไว้ด้วยวิธเผาปุา ให้
ี
ลุกลามขึ้นข้างหน้า ในขณะที่ให้พวกของตนคนหนึ่งคนใดไล่ยิงมาฉะนน
ั้
หมดสิ้นกันท สําหรับหนทางจะวิ่งหนีไป ครั้นจะย้อนกลับมาอีก หอกดาบก็ยังพุ่งตามมาราวกับ
ี
ห่าฝน ดูเหมือนชั่วขณะนั้น เหล่าสัตว์นรกผู้น่าสงสารจะมองไม่เห็นวิธีใด ดีไปกว่าการตะเกียกตะกาย
เลียบไปตามกําแพงเหล็กมหึมานั้นต่อไป เพื่อบางทีจะได้พบช่องทาง พอโผล่พ้นออกไปจากสวน
มะม่วงอุบาทว์นี้บ้าง แม้ว่า ความยาวของกําแพงจะเหยียดยาวออกไปจนสุดลูกหูลูกตา และมองหา
ที่สุดไม่เห็นก็ตามท
ี
ึ้
ั
แต่ฉับพลันนนเอง เหตุการณ์ที่เหลือเชื่อยิ่งกว่าที่เกิดขนแล้ว ก็อุบัติขน สุนขตัวใหญ่ขนาดเท่า
ั้
ึ้
่
ช้างสาร มีเขี้ยวยาวโง้งออกมาจากปาก นัยน์ตาทั้งสองโตเท่าไข่ห่านนั้น ลุกวาวอย่างนากลัว 1-2-3-4-
ั
5 ตัวพอดิพอดี วิ่งมาจากทิศทางใดไม่ทนเห็น