Page 18 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 18
๑๒
ิ
ยมบาลว่าพลางลุกขึ้น จากแท่นออกเดนนําหน้า พาพระเถระจากเมืองมนุษย์เที่ยวชมเมือง
นรกโดยไม่รอช้า
ดินแดนลงโทษสัตว์นรกแห่งแรกที่ยมบาลพาพระมาลัยไปชมนน เป็นภูเขาหินลูกใหญ่สองลูก
ั้
เป็นเครื่องหมาย ซึ่งภายในภูเขาลูกนี้ มีเครื่องยนต์กลไกอยู่ภายใน สามารให้เคลื่อนมากระทบบดขยี้
สัตว์นรกที่เข้าไปอยู่ในระหว่างกลาง ให้แหลกละเอียด ได้อย่างน่าอัศจรรย์ หากจะเปรียบง่ายๆ ก็ไม่
ต่างอะไรกับหีบ ที่หีบอ้อยสดให้น้ําอ้อยไห้อ้อยออกมานั่นเอง
ั้
ในช่วงเวลาที่ยมบาลพาพระเถระไปถึงนน เป็นเวลาเดียวกับที่สัตว์นรก ผู้ตกเป็นทาสกรรม
หลายต่อหลาย กําลังถูกผู้คุมจับพุ่งเข้าไปในภูเขายนต และถูกภูเขาเคลื่อนมาบดขยี้เนื้อตัวอย่างไม่
์
ปรานีปราศรัย ต่างก็ส่งเสียงร้องคร่ําครวญดวยความเจ็บปวดรวดร้าว แสนสาหัส จนกระทั่งร่างแหลก
้
เหลวเป็นจุณวิจุณไป ไม่มีเสียงที่จะร้องต่อไปนนแหละ ภูเขาทั้งสองจึงเคลื่อนตัวออกจากกัน แล้วผู้คุม
ั่
ก็จับคนใหม่พุ่งเข้าไปแทน เช่นนี้เรื่อยไป เป็นที่เสียวไส้ สยดสยอง ขนลุกขนพอง แก่ผู้ที่ได้พบเห็น
อย่างมากทีเดียว
นี่เองชีวิตของผู้ตกเปนหนี้กรรม ต้องยอมเสวยทุกขเวทนาชดใช้ไป แม้ว่าความทุกขเวทนา
็
ดังกล่าว จะแสนสาหัสยิ่งกว่ากรรมที่ตนทําไว้เพียงใดก็ตาม ทางเดียวคือ ยอม-ยอมก้มหน้ารับมัน
ต่อไป จนกว่าจะหมดสิ้น
"ที่นี่เรียกยันตปสาณนรก พระคุณเจ้า" ยมบาลเอ่ยทําลายความเงียบขึ้น หลังจากที่ปล่อยให้
พระมาลัย นิ่งมองด้วยความสมเพชเวทนาอยู่เป็นเวลานาน "เป็นนรกย่อยๆ ที่ใช้ลงโทษสัตว์นรกผู้มี
กรรมเล็กๆ น้อยๆ ขอรับ"
"กรรมเล็กๆ น้อยๆ ?" พระมาลัยทวนคํา "หมายความว่ากรรมประเภทไหนล่ะท่าน?"
"ก็จําพวกฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ด้วยการใชเครื่องทรมานนี้ประการต่างๆ เช่น จับสัตว์ใส่เครื่องบด
้
ทั้งๆ ที่ยังเป็นๆ อยู่นนแหละ พระคุณเจ้า" ยมบาลตอบ "คนพวกนี้เห็นชีวิตสัตว์อื่นเป็นเครื่องเล่น การ
ั่
ี่
ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของสัตว์อื่น แทนทจะก่อให้เกิดความเวทนาสงสาร กลับทําให้พวก
เขา เกิดความครึกครื้น สนุกสนาน ประการหนึ่งว่า ได้ฟ๎งเสียงดนตรีอันไพเราะ ครั้นตัวเขาตาย จึงมา
พบกับความทุกขเวทนาเช่นนี้ ขอรับ"