Page 82 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 82
78
32. ค ำชี้ขำดข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 109/2560, 110/2560, 111/2560, 112/2560, 113/2560,
114/2560, 115/2560, 116/2560, 117/2560, 118/2560, 119/2560
ประเด็นข้อพิพำท : 1. ผู้คัดค้ำนเป็นฝ่ำยผิดสัญญำหรือไม่
2. ค่ำเสียหำยของผู้เรียกร้องตำมข้อเรียกร้องแต่ละส ำนวนมีหรือไม่ เพียงใด
ทำงพิจำรณำที่ปรำกฏข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ ผู้คัดค้านในข้อพิพาททั้ง 11 ส านวนนี้ เป็นนิติ
บุคคลประเภทบริษัทจ ากัด มีวัตถุประสงค์รวมถึงการประกอบธุรกิจอาคารชุดตามพระราชบัญญัติอาคารชุดฯ
ผู้คัดค้านเป็นเจ้าของโครงการอาคารชุด ผู้คัดค้านให้สัญญาว่า จะเริ่มก่อสร้างโครงการอาคารชุดในไตรมาสที่ 4 ของปี
2555 ให้แล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 หากมีอุปสรรคใดที่ไม่ได้เป็นความผิดของผู้คัดค้าน ก าหนดเวลาที่แล้วเสร็จ
จะขยายออกไปได้อีก 6 เดือน ทั้งนี้ ผู้คัดค้านได้สร้างห้องชุดตัวอย่าง (Show room) เป็นแบบของห้องชุดที่จะก่อสร้างจริง
และโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออินเตอร์เน็ตว่า ชั้นดาดฟ้าจะมีพื้นที่อาบแดด มีสวนเขตร้อน และสนามมินิกอล์ฟ
ส่วนบริเวณด้านหน้าโครงการจะจัดท าน้ าพุ เพื่อจ าหน่ายห้องชุดในโครงการให้แก่บุคคลทั่วไป ในช่วงปี 2555 ผู้เรียกร้อง
ที่ 1, ผู้เรียกร้องที่ 4, ผู้เรียกร้องที่ 5, ผู้เรียกร้องที่ 8, ผู้เรียกร้องที่ 9, ผู้เรียกร้องที่ 10 และนายเอ (ผู้เรียกร้องที่ ๑๑
เป็นผู้จัดการมรดกของนายเอ) ได้เข้าท าสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดกับผู้คัดค้าน และในช่วงปี 2556 ผู้เรียกร้องที่ 2,
ผู้เรียกร้องที่ 3, ผู้เรียกร้องที่ 6 และผู้เรียกร้องที่ 7 ก็ได้ท าสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดกับผู้คัดค้านท านองเดียวกัน
ผู้คัดค้านได้ด าเนินการเริ่มการก่อสร้างอาคารชุด เมื่อพฤศจิกายน 2555 ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ของปี 2555 ครั้นถึงต้นปี
2557 โครงการต้องหยุดชะงักประมาณ 6 เดือน เพราะประสบปัญหาแรงงาน และการป้องกันฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง
รวมถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแปลน จนถึงปี 2558 จึงก่อสร้างอาคารชุดตามโครงการแล้วเสร็จ แต่ได้รับใบรับรอง
ก่อสร้าง เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 และจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดได้ ตามหนังสือส าคัญ เมื่อวันที่ 26 มกราคม
2559 ผู้เรียกร้องทั้ง 11 ส านวน มีหนังสือบอกกล่าว ฉบับลงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ให้ผู้คัดค้านปฏิบัติตามสัญญา
จะซื้อจะขาย ภายใน 30 วัน หากไม่ปฏิบัติตามหนังสือบอกกล่าวภายในก าหนดเวลา ก็ให้ถือเอาหนังสือบอกกล่าว
เป็นการเลิกสัญญา จึงขอให้ผู้คัดค้านคืนเงินให้แก่ผู้เรียกร้องทั้ง 11 ส านวน และโดยที่ผู้คัดค้านเป็นผู้ประกอบธุรกิจอันเป็น
ที่ไว้วางใจของประชาชน จงใจ ละเลย ท าให้ผู้เรียกร้องทั้ง 11 ส านวนเสียหาย ไม่น าพาต่อผู้บริโภค จึงขอให้
อนุญาโตตุลาการก าหนดความเสียหายเป็นสองเท่าตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 กับให้
ผู้คัดค้านใช้ค่าป่วยการอนุญาโตตุลาการ และค่าอากรแสตมป์แทนผู้เรียกร้องทั้ง 11 ส านวน
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
ประเด็นข้อพิพาทที่ ๑ มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาตามประเด็นข้อพิพาทแรกว่า ผู้คัดค้านเป็นฝ่ายผิด
สัญญาหรือไม่ ได้พิจารณาข้อโต้แย้งระหว่างกันดังกล่าวแล้ว เห็นว่าสัญญาจะซื้อจะขาย ระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้คัดค้านจะต้อง
ก่อสร้างโครงการอาคารชุดให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 หรือภายในปีปฏิทิน พ.ศ. 2557 และอาจขยาย
ออกไปได้อีก 6 เดือน หากมีเหตุที่มิใช่ความผิดของผู้คัดค้านเกิดขึ้น ดังนั้น ก าหนดเวลาการก่อสร้างตามสัญญาจะซื้อ
จะขาย อาจมีเหตุขยายต่อไปอีกได้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2558 แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้คัดค้านได้ยื่น
ค าขอจดทะเบียนอาคารชุด เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 เห็นได้ว่า หลังจากวันที่ 25 มกราคม 2559 ไปแล้ว
ผู้คัดค้านสามารถจะโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของโครงการให้แก่ผู้ซื้อได้นับแต่นั้นเป็นต้นไป ในขณะเดียวกันก็ต้องถือว่า
ผู้คัดค้านก่อสร้างโครงการล่าช้าจากสัญญา เพราะล่วงเลยจากก าหนดเวลาตามสัญญาไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม