Page 12 - 2557 เล่ม 1
P. 12

๑๒



               กันแล้วตามรายงานประจําวันเกี่ยวกับคดีเอกสารศาลแพ่งหมาย ป.จ.๔ โจทก์คงมี
               สิทธิเรียกร้องหนี้ตามสัญญากับจําเลยที่ ๑ เท่านั้น ไม่มีสิทธิเรียกร้องจาก

               จําเลยที่ ๒ นั้น ตามรายงานประจําวันเกี่ยวกับคดีเอกสารศาลแพ่งหมาย ป.จ.๔ ที่

               พนักงานสอบสวนจัดทําขึ้นในการเปรียบเทียบปรับจําเลยที่ ๑ ในความผิดฐาน
               ขับรถโดยประมาท อันทําให้คดีส่วนอาญาเลิกกัน แม้จะมีข้อความบันทึกไว้ตอนต้นว่า

               คู่กรณีทั้งสามฝ่ายตกลงเรื่องค่าเสียหายกัน ผลการตกลงฝ่ายรถยนต์บรรทุก

               หมายเลขทะเบียน ๘๐ –  ๕๒๗๓ ชุมพร ซึ่งจําเลยที่ ๑ เป็นคนขับขณะเกิดเหตุ
               ยินยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายโดยจะซ่อมรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ๖ ฎ – ๐๙๖๗

               กรุงเทพมหานคร และรถยนต์โดยสาร หมายเลขทะเบียน ๑ ๑   – ๗๐๔๗

               กรุงเทพมหานคร ของโจทก์ให้อยู่ในสภาพเดิม ส่วนค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจะไป
               ดําเนินการกันเองกับบริษัทประกันภัยก็ตาม แต่ผู้ลงชื่อท้ายบันทึกฝ่ายรถบรรทุก

               หมายเลขทะเบียน ๘๐ –  ๕๒๗๓ กรุงเทพมหานคร ได้แก่ จําเลยที่ ๑ ผู้ชดใช้และ
               ฝ่ายรถยนต์โดยสาร หมายเลขทะเบียน  ๑๑ –  ๗๐๔๗ กรุงเทพมหานคร คือ

               นายมนัส พนักงานขับรถยนต์โดยสารของโจทก์ผู้รับชดใช้ โดยไม่มีข้อความตอนใด

               ระบุว่านายมนัสทําบันทึกข้อตกลงในฐานะตัวแทนของโจทก์ ทั้งตามประมวล
               กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๑ บังคับว่าสัญญาประนีประนอมยอมความ

               ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ และมาตรา ๗๙๘ วรรคสอง บัญญัติว่า กิจการอันใด

               ท่านบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องมี
               หลักฐานเป็นหนังสือด้วย ดังนี้ข้อตกลงเรื่องค่าเสียหายตามรายงานประจําวัน

               เกี่ยวกับคดี เอกสารศาลแพ่งหมาย ป.จ.๔ จึงไม่ผูกพันโจทก์ กรณีฟงงไม่ได้ว่าโจทก์

               กับจําเลยที่ ๑ ทําสัญญาประนีประนอมยอมความกันอันจะมีผลให้มูลหนี้ละเมิด
               ระงับไป ฎีกาข้อนี้ของจําเลยที่ ๒ ฟงงไม่ขึ้น

                      มีปงญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจําเลยที่ ๒ ประการสุดท้ายว่า ค่าเสียหายที่

               ศาลล่างทั้งสองกําหนดให้แก่โจทก์สูงเกินความเป็นจริง ศาลล่างทั้งสองพิจารณา
               และวินิจฉัยให้เหตุผลในการกําหนดค่าเสียหายที่จําเลยทั้งสามต้องรับผิดต่อ

               โจทก์มา เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีและชอบด้วยเหตุผลแล้ว จึงไม่จําต้อง

               วินิจฉัยซ้ําอีก ฎีกาของจําเลยที่ ๒ ข้อนี้ฟงงไม่ขึ้นเช่นกัน
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17