Page 9 - 2557 เล่ม 1
P. 9
๙
ตอนใดระบุว่า ม. ท าบันทึกข้อตกลงในฐานะตัวแทนของโจทก์ ทั้งตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๘๕๑ บังคับว่าสัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐาน
เป็นหนังสือ และมาตรา ๗๙๘ วรรคสอง บัญญัติว่า กิจการอันใดท่านบังคับ
ว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องมี
หลักฐานเป็นหนังสือด้วย ดังนี้ข้อตกลงเรื่องค่าเสียหายตามรายงาน
ประจ าวันเกี่ยวกับคดี เอกสารศาลแพ่งหมาย ป.จ.๔ จึงไม่ผูกพันโจทก์ กรณี
ฟังไม่ได้ว่าโจทก์กับจ าเลยที่ ๑ ท าสัญญาประนีประนอมยอมความกันอันจะ
มีผลให้มูลหนี้ละเมิดระงับไป
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องส าหรับจ าเลยที่ ๒ แต่มิได้สั่งในเรื่อง
ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจ าเลยที่ ๒ เป็นการไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.
มาตรา ๑๖๑ และมาตรา ๑๖๗ ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ มิได้แก้ไข ศาลฎีกา
เห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
______________________
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจําเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันชําระเงินแก่โจทก์
๓๖๔,๙๖๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๓๓๙,๕๐๐
บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชําระเสร็จ
จําเลยที่ ๑ และที่ ๒ ให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา ศาลแพ่งมีคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์จําเลยที่ ๓ เด็ดขาด ต่อมา
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคําร้องขอเข้าดําเนินคดีแทนจําเลยที่ ๓ ศาลชั้นต้น
อนุญาต
จําเลยที่ ๓ ยื่นคําให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จําเลยที่ ๑ และที่ ๓ ร่วมกันหรือแทนกันชําระเงิน
แก่โจทก์ ๑๕๗,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน
ดังกล่าวนับแต่วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๐ เป็นต้นไป จนกว่าจะชําระเสร็จ กับให้
จําเลยที่ ๑ และที่ ๓ ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกําหนดค่าทนายความให้
๔,๐๐๐ บาท ให้ยกฟ้องสําหรับจําเลยที่ ๒