Page 21 - 2557 เล่ม 1
P. 21

๒๑



               ไปต่อหน้าจําเลย แสดงให้เห็นว่า จําเลยร่วมกับพวกมีเจตนาเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป
               โดยทุจริตจึงเป็นการร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ

               ความผิดฐานชิงทรัพย์ตั้งแต่สามคนขึ้นไปอันเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามที่

               โจทก์ฟ้อง จึงลงโทษจําเลยตามที่พิจารณาได้ความ ตามประมวลกฎหมายวิธี
               พิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคท้าย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ พิพากษานั้น

               ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟงงขึ้นบางส่วน

                      พิพากษาแก้เป็นว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
               ๓๓๕ (๑) (๗) วรรคสองอีกกระทงหนึ่งให้จําคุก ๑ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตาม

               ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจําคุก ๘ เดือน เมื่อรวมกับโทษฐาน

               หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นตามคําพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วเป็นจําคุก ๑๖ เดือน
               นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๙


                       (ประพาฬ อนมาน – อนันต์ วงษ์ประภารัตน์ – วิจิตร วิสุชาติ)



                                                                    ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์ - ย่อ
                                                               อดุลย์ ขันทอง/วิรัช ชินวินิจกุล - ตรวจ
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26