Page 28 - 2557 เล่ม 1
P. 28

๒๘



               จะออกไปจากสถานประกอบการของโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ คําขออื่น
               นอกจากนี้ให้ยก

                      จําเลยทั้งห้าอุทธรณ์

                      ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์
               ให้เป็นพับ

                      โจทก์ฎีกา

                      ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้เถียงกันในชั้นฎีการับฟงงว่า
               ที่ดินพิพาทซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของไร่พรพรรณซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นสถานประกอบการ

               ของโจทก์ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชัยบาดาล จําเลยที่ ๑ กับพวกเข้าไป

               ครอบครองทําประโยชน์ในที่ดินพิพาทตั้งแต่ก่อนที่โจทก์จะมีการจดทะเบียนเป็น
               นิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจํากัด

                      มีปงญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่า โจทก์มีอํานาจฟ้องจําเลย
               ทั้งห้าหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟงงว่า ที่ดินพิพาทซึ่งเป็นสถานที่ตั้งไร่พรพรรณอยู่

               ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชัยบาดาล ที่ดินพิพาทจึงเป็นสาธารณสมบัติของ

               แผ่นดิน โจทก์จําเลยหรือผู้ใดย่อมไม่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง แต่ผู้ใด
               ครอบครองอยู่ผู้นั้นย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้อื่นที่จะหวงกันไม่ให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ในที่ดิน

               ประเภทนี้ได้ขณะที่ตนยึดถือครอบครองอยู่ เมื่อจําเลยที่ ๑ กับพวกเข้ายึดถือ

               ครอบครองทําประโยชน์อยู่ จําเลยที่ ๑ กับพวกจึงมีสิทธิดีกว่าโจทก์ซึ่งมีฐานะเป็น
               นิติบุคคลตามกฎหมายในภายหลังจากที่จําเลยที่ ๑ กับพวกเข้าครอบครอง

               ทําประโยชน์ โจทก์จึงย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จําเลยที่ ๑ กับพวกเป็นคดีนี้

               ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษามาต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์
               ฟงงไม่ขึ้น

                      อนึ่ง คดีนี้ในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาเป็นการขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจ

               คํานวณเป็นราคาเงินได้ ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นละ ๒๐๐ บาท จึงให้คืนค่าขึ้นศาล
               ชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาในส่วนที่เสียเกินมาแก่จําเลยทั้งห้าและโจทก์ตามลําดับ
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33