Page 1055 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1055
๑๐๔๓
ิ
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในส านวนความที่ได้มาจากกระบวนการพจารณา การสืบพยานหรือจากการสืบเสาะและ
พินิจของพนักงานคุมประพฤติตามที่ศาลสั่ง และที่ส าคัญหากพนักงานอัยการบรรยายในเรื่องนี้มาในค าฟ้องก็จะ
ิ่
ิ
เป็นสิ่งที่ช่วยศาลในการใช้ดุลพนิจเกี่ยวกับวิธีการเพอความปลอดภัยนี้ โดยในส่วนนี้ผู้เขียนเห็นสมควรเพมเติม
ื่
กระบวนการสืบค้นข้อเท็จจริงทางด้านพฤติกรรมและจิตใจจากโครงการคลินิกจิตสังคมเข้าไปเป็นหนึ่งใน
ทางเลือกที่ศาลสามารถค้นหาข้อเท็จจริงในเชิงลึก ซึ่งศาลสามารถน าคดีประเภทนี้เข้าสู่คลินิกจิตสังคมได้ตั้งแต่
ื่
ิ
ในชั้นฝากขังต่อเนื่องได้จนถึงชั้นพจารณาเพอประกอบดุลพนิจในการก าหนดวิธีการเพอความปลอดภัยอย่าง
ื่
ิ
เหมาะสม
ื่
ในมาตรา ๔๕ ที่บัญญัติว่า “ เพอความปลอดภัยของประชาชน” เป็นสาระส าคัญในการพิจารณา
ใช้วิธีการ ห้ามเข้าเขตก าหนด ดังนั้น ความผิดที่เป็นพื้นฐานของการใช้วิธีการเพอความปลอดภัยประเภทนี้ต้อง
ื่
่
เป็นความผิดที่เป็นการกอให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน
10
สรุปแล้วเงื่อนไขที่ศาลจะพิพากษาห้ามเข้าเขตก าหนดคือ ต้องพิพากษาให้ลงโทษ โดยเป็นดุลพินิจ
้
ิ
ของศาลเมื่อเห็นสมควรมีค าสั่งในค าพพากษาห้ามเข้าเขตก าหนดไม่ว่าจะมีค าขอในค าฟองหรือไม่ การห้ามเข้า
เขตก าหนดต้องมีระยะเวลาระบุไว้แต่ไม่ให้เกินห้าปี
๓. เรียกประกันทัณฑ์บน ตามมาตรา ๔๖ บัญญัติเรื่องการเรียกประกันทัณฑ์บนไว้ดังนี้
“ถ้าความปรากฏแก่ศาลตามข้อเสนอของพนักงานอัยการว่าผู้ใดจะก่อเหตุร้ายให้เกิดภยันตรายแก่
บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น หรือจะกระท าการใดให้เกิดความเสียหายแกสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ
่
ตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ในการพจารณาความผิดใด ไม่ว่าศาลจะลงโทษผู้ถูก
ิ
ฟ้องหรือไม่ก็ตาม เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ถูกฟ้องน่าจะก่อเหตุร้ายให้เกิดภยันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของ
่
ผู้อื่น หรือจะกระท าความผิดให้เกิดความเสียหายแกสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ ตามกฎหมายเกี่ยวกับ
สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ให้ศาลมีอานาจที่จะสั่งผู้นั้นให้ท าทัณฑ์บนโดยก าหนดจ านวนเงินไม่เกิน
กว่าห้าหมื่นบาทว่าผู้นั้นจะไม่ก่อเหตุร้ายหรือจะไม่กระท าความผิดดังกล่าวแล้วตลอดเวลาที่ศาลก าหนด แต่ไม่
เกินสองปี และจะสั่งให้มีประกันด้วยหรือไม่ก็ได้
ถ้าผู้นั้นไม่ยอมท าทัณฑ์บนหรือหาประกันไม่ได้ ให้ศาลมีอานาจสั่งกักขังผู้นั้นจนกว่าจะท าทัณฑ์
บนหรือหาประกันได้ แต่ไม่ให้กักขังเกินกว่าหกเดือน หรือจะสั่งห้ามผู้นั้นเข้าในเขตก าหนดตามมาตรา ๔๕ ก็ได้
การกระท าของผู้ซึ่งมีอายุต่ ากว่าสิบแปดปีมิให้อยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติตามมาตรานี้”
10 คณิต ณ นคร, กฎหมายอาญาภาพทั่วไป, พิมพ์ครั้งที่ ๗ (กรุงเทพมหานคร: บริษัท ส านักพมพ์วิญญูชน จ ากัด,
ิ
๒๕๖๓), หน้า ๔๘๗

