Page 1056 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1056
๑๐๔๔
ั
การเรียกประกันทัณฑ์บนเป็นมาตรการที่พนักงานอยการสามารถใช้ในการป้องกันไว้ก่อนที่จะมี
ื่
การกระท าความผิด โดยเสนอค าขอต่อศาลเพอมีค าสั่งให้ผู้ที่มีพฤติการณ์ว่าน่าจะกระท าความผิดท าทัณฑ์บนไว้
ซึ่งในชั้นสอบสวนในกรณีเกี่ยวกับการเรียกประกันทัณฑ์บน ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา
พ.ศ.๒๔๙๙ มาตรา ๗ ให้น าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับเสมือนเป็นความผิดอาญา แต่
ห้ามมิให้คุมขังชั้นสอบสวนเกินกว่าสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ผู้ถูกจับมาถึงที่ท าการของพนักงานฝ่ายปกครอง
หรือต ารวจ โดยไม่นับเวลาเดินทางตามปกติที่น าตัวผู้ถูกจับมาศาลรวมในเวลาสี่สิบแปดชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข
ว่าผู้นั้นจะก่อเหตุร้ายให้เกิดภยันตรายแก่บุคคลซึ่งหมายถึงอนต่อชีวิตร่างกาย หรือจะก่อให้เกิดภยันตรายแก่
ั
ทรัพย์สินของผู้อื่น หรือจะท าให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ
ี
ิ
ิ
ในอกรณีหนึ่งเมื่อคดีขึ้นมาสู่ชั้นพจารณาของศาล กรณีที่ศาลพจารณาคดีใด ไม่ว่าศาลจะลงโทษ
ื่
ผู้ถูกฟองหรือไม่ก็ตาม แต่มีเหตุอนควรเชื่อว่าผู้นั้นจะก่อเหตุให้เกิดภยันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อน
้
ั
หรือจะท าให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและ
ทรัพยากรธรรมชาติ ศาลก็จะสั่งให้ท าทัณฑ์บนก าหนดจ านวนเงินไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาทว่าจะไม่ก่อเหตุร้าย
ภายในเวลาที่ศาลก าหนด และศาลจะสั่งให้มีประกันด้วยก็ได้ หากไม่ยอมท าทัณฑ์บนหรือหาประกันไม่ได้ ศาล
มีอ านาจสั่งกักขังหรือห้ามเข้าเขตก าหนดตามมาตรา ๔๕ ก็ได้ และหากผู้นั้นผิดทัณฑ์บนก็ให้ศาลมีอ านาจสั่งให้
ช าระเงินไม่เกินจ านวนที่ก าหนดไว้ในทัณฑ์บนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔๗ แต่หากเป็นการกระท าของผู้ที่มี
อายุต่ ากว่าสิบแปดปีจะเรียกประกันทัณฑ์บนมิได้
เมื่อมีค าร้องขอของพนักงานอัยการหรือศาลพิจารณาเห็นเอง การจะพิจารณาข้อเท็จจริงอาจเป็น
ิ
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในส านวนความที่ได้มาจากกระบวนการพจารณา การสืบพยานหรือจากการสืบเสาะและ
พินิจของพนักงานคุมประพฤติตามที่ศาลสั่ง และที่ส าคัญหากพนักงานอัยการบรรยายในเรื่องนี้มาในค าร้องหรือ
้
ิ
ค าฟองก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยศาลในการใช้ดุลพนิจเกี่ยวกับวิธีการเพอความปลอดภัยนี้ โดยในส่วนนี้ผู้เขียน
ื่
เห็นสมควรเพมเติมกระบวนการสืบค้นข้อเท็จจริงทางด้านพฤติกรรมและจิตใจจากโครงการคลินิกจิตสังคมเข้า
ิ่
ื่
ไปเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ศาลสามารถค้นหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกเพอค้นหาข้อมูลว่าผู้ต้องหาหรือจ าเลยมีความ
ผิดปกติทางด้านพฤติกรรมหรือด้านจิตใจ ที่เป็นปัจจัยกระตุ้นเช่น ความก้าวร้าว พฤติกรรมเลียนแบบ อยาก
เป็นที่ยอมรับ อยากมีตัวตนในกลุ่ม เป็นต้น ที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมหรือแนวโน้มที่ควรเชื่อว่าผู้นั้นจะก่อเหตุให้
เกิดภยันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อน หรือจะท าให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมหรือ
ื่
ทรัพยากรธรรมชาติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติหรือไม่ ซึ่งศาลสามารถน าคดี
ิ
ประเภทนี้เข้าสู่คลินิกจิตสังคมได้ตั้งแต่ในชั้นฝากขังต่อเนื่องได้จนถึงชั้นพจารณา เพอประกอบดุลพนิจในการ
ิ
ื่
พิจารณาว่าศาลควรเรียกทัณฑ์บนหรือไม่ เพียงใด

