Page 1080 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1080

๑๐๖๘


                                                                                               ู
                 ฟื้นฟูเพื่อให้ผู้กระท าความผิดปฏิบัติตาม หากผู้กระท าความผิดปฏิบัติตามแผนแก้ไขบ าบัดฟื้นฟครบถ้วน ศาลก็
                 จะจ าหน่ายคดีออกจากสารบบความ และสิทธิน าคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ


                                                                             25
                        กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ Restorative Justice (RJ)  มีมุมมองว่า อาชญากรรมเป็นการ
                 กระท าต่อตัวบุคคลหรือสังคมมากกว่าเป็นการกระท าต่อรัฐ กล่าวคืออาชญากรรมเป็นเรื่องของความขัดแย้ง

                 ระหว่างบุคคล (Interpersonal conflict) ดังนั้น ควรมีกระบวนการที่ท าให้ผู้เสียหายและผู้กระท าผิดได้มี

                 โอกาสพดคุยกัน ซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์ส าคัญยิ่งของกระบวนการนี้ โดยผู้เสียหายจะมีฐานะเป็นศูนย์กลางใน
                        ู
                 อนที่จะได้รับการแสดงความรับผิดชอบของผู้กระท าความผิดในรูปแบบของการได้รับการขอโทษหรือการ
                  ั
                                                             ้
                 ชดเชย(reparation) ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางออม นอกจากนั้นยังเป็นกระบวนการที่ท าให้ทุกฝ่ายได้
                 ตระหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยผู้เสียหายจะมีสิทธิมีเสียง มี

                 โอกาสแสดงความรู้สึกต่อการกระท าที่เกิดขึ้นรวมทั้งอาจพฒนาสู่การแสดงความเมตตาให้อภัยแก่ผู้กระท าผิด
                                                                 ั
                 อนเป็นการน าพาสังคมสู่ดุลยภาพที่มีความเอออาทรต่อกันในที่สุด ส่วนผู้กระท าผิดก็ได้มีเวทีและโอกาสแสดง
                                                      ื้
                  ั
                                                                           ั
                 ความรับผิดชอบต่อการกระท าของตนรวมทั้งได้แสดงความส านึกผิด อนเป็นการเยียวยาประสานรอยร้าวทาง
                 อารมณ์ความรู้สึกระหว่างสมาชิกสังคมที่บาดหมางโกรธเคืองกันเข้าด้วยกันอกครั้งโดยมีผู้แทนชุมชนเข้าร่วม
                                                                                 ี
                                                               ิ
                 เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย กระบวนการประนอมข้อพพาทเชิงสมานฉันท์เป็นการเพิ่มบทบาทของศาลในเรื่อง
                 การลงโทษเชิงเยียวยา โดยตระหนักในสิทธิของผู้เสียหาย ศาลจะพพากษาคดีโดยค านึงถึงการแก้ไขมิให้จ าเลย
                                                                        ิ
                 กระท าผิดซ้ า พร้อมทั้งเยียวยาผู้เสียหายและชุมชน โดยค านึงถึงความสงบสุขของสังคมโดยรวมด้วย


                                                                       ิ
                        ๒.๔ พระรำชบัญญัติศำลเยำวชนและครอบครัวและวธีพิจำรณำคดีเยำวชนและครอบครัว พ.ศ.
                 ๒๕๕๓ มำตรำ ๑๓๒


                                         ิ
                        มาตรการแทนการพพากษาคดี เป็นกรณีที่ศาลพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่ายังไม่สมควรจะมี
                 ค าพิพากษา แต่ได้เปิดโอกาสให้ผู้กระท าความผิดที่เป็นเด็กหรือเยาวชนรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติหรือ

                             ื่
                 เจ้าพนักงานอนและเข้ารับการบ าบัดฟนฟภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร หรือศาลจะส่งตัวผู้กระท า
                                                     ู
                                                  ื้
                 ความผิดไปยังสถานพนิจหรือสถานที่อนซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายสักระยะหนึ่งเพอแก้ไขบ าบัดฟนฟภายใน
                                   ิ
                                                  ื่
                                                                                      ื่
                                                                                                  ื้
                                                                                                     ู
                 ระยะเวลาที่ศาลก าหนด และหากผู้กระท าผิดปฏิบัติตามเงื่อนไขแล้ว ศาลจะยุติคดีโดยไม่ต้องมีค าพพากษา
                                                                                                     ิ
                 เกี่ยวกับความผิดของจ าเลยและให้ถือว่าสิทธิน าคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ


                                                                                         ้
                            ั
                        25  วิชย ชางหัวหน้าและคณะ,  งานวิจัยเรื่อง การน าหลักความยุติธรรมเชิงสมานฉันทไปใชในการประนอมข้อพิพาท
                                                                                      ์
                               ้
                 ในคดีอาญา : ศึกษากรณีศาลอาญา,  ส านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.),  (๒๕๕๑),  น. ๑.
   1075   1076   1077   1078   1079   1080   1081   1082   1083   1084   1085