Page 1077 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1077
๑๐๖๕
ื่
เหล่านี้ไม่สามารถหางานท าได้ ส่วนมากตัดสินใจกลับไปขายยาเสพติดหรือไปก่ออาชญากรรมอนและต้องกลับ
ไปสู่เรือนจ าเช่นเดิม
แต่แนวทางของประเทศเนเธอร์แลนด์จะด าเนินคดีกับผู้กระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเน้นการ
จับกุมปราบปรามผู้กระท าความผิดที่เป็นผู้ผลิต ผู้น าเข้าหรือผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ และเน้นนโยบาย
ปราบปรามการฟอกเงิน ส าหรับผู้กระท าความผิดฐานเสพยาเสพติดหรือเป็นผู้กระท าความผิดที่เป็นผู้ค้า
้
รายย่อยจะใช้นโยบายไม่จับกุมมาลงโทษจ าคุกแต่จะเน้นการแกไขบ าบัดฟื้นฟผู้ติดยาเสพติดโดยถือว่าเป็นผู้ป่วย
ู
ู
โดยให้มาลงทะเบียนและรับยาเสพติดตามคลินิกแจกยาเสพติดของรัฐ ผู้ติดยาเสพติดต้องมาพดคุยบ าบัดกับ
บุคลากรทางการแพทย์ และต้องใช้ยาเสพติดที่แจกขณะนั้นไม่สามารถน าออกมานอกคลินิกได้ เหตุผลเพราะ
ประเทศเนเธอร์แลนด์มองว่าบุคคลที่ติดยาเสพติดเป็นปัญหาสังคม ไม่ใช่อาชญากรที่ควรน าไปจ าคุก จึงใช้
ื่
ั
วิธีการแก้ไขบ าบัดฟื้นฟูโดยใช้วิธีการแจกยาเสพติดเพอบ าบัดรักษาอาการติดยาเสพติดทางกายควบคู่กบการให้
ั
ค าปรึกษาแนะน าอนเป็นการบ าบัดทางใจ ซึ่งประเทศเนเธอร์แลนด์ใช้วิธีการบ าบัดทางใจผ่านโครงการพเศษ
ิ
ื้
ื่
ู
เพอการฟนฟทางจิตวิทยาที่เรียกว่า TBS โดยมีการน าสถาบันทางจิตวิทยามาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ
ู
ื้
ยุติธรรมและใช้วิธีการบ าบัดฟนฟจากผู้เชี่ยวชาญต่อผู้กระท าผิดที่มีปัญหาทางจิตใจแทน (หน่วยงาน TBS เป็น
ู
หน่วยงานที่เน้นท างานบ าบัดคนที่กระท าความผิดอาญาที่มีโทษจ าคุกอย่างน้อย ๔ ปี และมีโอกาสสูงที่จะ
กระท าผิดซ้ า) โดยจะพยายามบ าบัดผู้กระท าความผิดให้สามารถกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคมให้ได้ หาก
ผู้กระท าความผิดไม่ให้ความร่วมมือหรือเล็งเห็นแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะกลับสู่สังคมก็จะมีการส่งตัว
ต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีการรักษาความปลอดภัยระดับสูงและควบคุมตัวไว้ที่นั่น ทั้งนี้ ทุกๆ ๒ ปี จะมีการให้
ผู้พิพากษาประเมินว่าผู้ต้องขังควรจะต้องขยายการบ าบัดต่อไปอกหรือไม่ ซึ่งคนเหล่านี้มักจะถูกคุมขังโดยเฉลี่ย
ี
๒ ปีเท่านั้น เมื่อเทียบกับการลงโทษผู้กระท าความผิดโดยการจ าคุกแล้ว การให้เข้าโปรแกรมบ าบัด TBS
21
สามารถลดการก่อเหตุซ้ าได้ดีกว่า
ื่
การแก้ปัญหายาเสพติดด้วยวิธีการดังกล่าว ท าให้คนเหล่านี้ไม่ต้องไปจ าหน่ายยาเสพติดเพอน าเงินมา
ซื้อยาเสพติดเพื่อเสพ ท าให้สามารถตัดวงจรการระบาดของยาเสพติดได้และเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้เสพหน้าใหม่
ถูกชักชวนให้มาเสพยาเสพติดเพมขึ้น จึงเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมที่ต้นเหตุ ดังนั้น ผู้ติดยาเสพติดจึงไม่ต้อง
ิ่
ไปกระท าความผิดเพอหาเงินมาซื้อยาเสพติด ท าให้ปัญหายาเสพติดไม่แพร่กระจายและเป็นการลดปัญหา
ื่
อาชญากรรมท าให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหาผู้ติดยาเสพติด ซึ่งแนวทางแก้ปัญหายาเสพติดดังกล่าว
21 ท าไมเนเธอร์แลนด์มีผู้ต้องขังน้อยมากหรือจะเป็นความส าเร็จจากโครงการบ าบัดยาเสพติด, (๒๕๖๒),
[ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก https://prachatai.com/journal/2019/12/85556, (วันที่ค้นข้อมูล : ๒๕๖๔, ๑๓ กรกฎาคม).

