Page 1074 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1074
๑๐๖๒
อย่างใกล้ชิด โดยเปรียบเทียบกับการด าเนินการศาลยาเสพติดในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและ
นิวซีแลนด์ พร้อมข้อเสนอแนะในการจัดตั้งศาลยาเสพติดในประเทศไทย ซึ่งอาจกระท าได้ทั้งด้านนโยบายและ
ิ
ด้านกฎหมาย ในด้านกฎหมายมีข้อเสนอแนะให้ด าเนินการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา
ื้
ู
มาตรา ๑๐๘ ขยายขอบเขตการแก้ไขฟนฟผู้ต้องหาหรือจ าเลยเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราว
้
ื่
พร้อมทั้งวางระเบียบภายในของศาลยุติธรรมในการบริหารจัดการเพอให้การแกไขปัญหาผู้กระท าผิดเกี่ยวกับยา
เสพติดได้รับการช่วยเหลือดูแลได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถประสานงานกับกรมคุมประพฤติให้ช่วยสอดส่อง
ดูแลผู้ต้องหาหรือจ าเลยที่อยู่ในอานาจศาล ตามพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๑๔ (๔) ซึ่ง
ก าหนดอานาจหน้าที่ให้พนักงานคุมประพฤติปฏิบัติหน้าที่อนตามค าสั่งศาลได้ รวมทั้งเสนอแนะให้ปรับปรุง
ื่
ิ่
ื้
ู
แก้ไขเพมเติมพระราชบัญญัติฟนฟสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้การบ าบัดรักษาเป็นระบบสมัคร
ใจ ไม่ใช่การบังคับ และเปิดโอกาสให้ความผิดอาญาบางฐานความผิดที่ไม่ร้ายแรงให้ศาลสามารถสั่งด าเนินการ
16
แก้ไขฟื้นฟูได้เช่นกัน
17
ตัวอย่ำงกำรลดทอนควำมเป็นอำชญำกรรมคดียำเสพติดในต่ำงประเทศ
ื่
ประเทศโปรตุเกส มีการแก้กฎหมาย ก าหนดให้การมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพอใช้เป็นการส่วนตัว
ภายใน ๑๐ วันไม่เป็นความผิดอาญา ส่วนผู้กระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มียาเสพติดไว้ในครอบครอง
จ านวนไม่มากเน้นการบ าบัดรักษา เช่นให้ไปรายงานตัว จ่ายค่าปรับ ให้เข้ารับค าปรึกษาและบ าบัดรักษาการติด
ยาเสพติด หากผู้กระท าผิดปฏิบัติตามได้จะถือว่าเป็นการยุติคดี หากผู้กระท าไม่สมัครใจเข้ารับการบ าบัดจะมี
มาตรการลงโทษทางเลือกเช่น ลงโทษปรับ พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต ห้ามเข้าเขตก าหนด หรือห้ามเดินทาง
ออกนอกประเทศเป็นต้น โดยบุคคลนั้นจะไม่มีความผิดอาญา
16 ศักดิ์ชย เลิศพานิชพันธุ์, (๒๕๖๐), โครงการศึกษาเรื่อง การน าแนวทางศาลยาเสพติดมาปรับใชในประเทศไทย,
ั
้
[ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก http://www/rabi.coj.go.th/doc/data/rabi/rabi_1503892596.pdf, (วันที่ค้นข้อมูล : ๒๕๖๔,
๑๑ กรกฎาคม).
17 รุ่งศักดิ์ วงศ์กระสันต์, “มาตรการลดทอนความเป็นอาชญากรรมในคดียาเสพติด : แนวทางในการจัดตั้งศาลเพื่อ
บ าบัดฟื้นฟูผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติดในประเทศไทย”, เอกสารวิชาการรายบุคคล หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ ๖๐,
(๒๕๖๐-๒๕๖๑), น. ๒๔-๒๗.

