Page 119 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 119
๑๐๖
แท้จริง ยังไม่นับว่าบางคดีอาจไม่มีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะออกหมายขังได้เลย แม้ปัญหาส่วนหนึ่งมา
ิ
จากปริมาณคดีที่ขอฝากขังในแต่ละวันไม่ได้สัดส่วนกับจ านวนผู้พพากษาที่ปฏิบัติหน้าที่เวรชี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้
ว่า ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการไม่ให้ความส าคัญกับการพิจารณาพยานหลักฐานในชั้นฝากขัง
อย่างไรก็ดี แม้ศาลจะมีอานาจตามกฎหมายในอนที่จะปกป้องและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของ
ั
ประชาชน แต่ศาลก็ต้องรักษาความสมดุลไม่ให้เกิดข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มากเกินไปจนเป็น
อุปสรรคในการท างานได้ เมื่อผู้เขียนมีโอกาสบรรยายในการประชุมประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานใน
ู
กระบวนการยุติธรรมต่าง ๆ ในหลายๆ วาระ ผู้เขียนพบว่า การพดคุยถึงข้อจ ากัดของหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย
ความเข้าใจและเห็นใจ กลับได้รับความร่วมมือมากกว่าที่ศาลจะใช้อานาจโดยทันที และเมื่อผู้เขียนแยกย่อยให้
เห็นชัดเจนว่าในแต่ละคดีควรมีพยานหลักฐานใดบ้างที่ศาลสามารถออกหมายขังได้ ยิ่งท าให้เกิดความชัดเจนที่
จะปฏิบัติตาม ไม่เพียงแต่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอยการ ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่ศาลในส่วนงานที่เกี่ยวข้อง
ั
ิ่
ิ
ด้วยเมื่อต้องประสานงานขอพยานหลักฐานเพมเติม ดังนั้น พยานหลักฐานที่ใช้ในการพสูจน์กับมาตรฐาน
ิ
ิ
ิ
การพสูจน์ก่อนพจารณาออกหมายขังที่จะกล่าวดังต่อไปนี้ จึงเป็นเรื่องที่ผู้พพากษาควรต้องให้ความส าคัญ
ก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะให้ความส าคัญกับการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเป็นล าดับถัดไป
พยานหลักฐานที่ใช้ในการพิสูจน์
ในการออกหมายขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวน ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา
ิ
๗๑ บัญญัติว่า “เมื่อได้ตัวผู้ต้องหาหรือจ าเลยมาแล้ว ในระยะใดระหว่างสอบสวน...ศาลจะออกหมายขง
ั
ผู้ต้องหา...ไว้ตามมาตรา ๘๗ หรือมาตรา ๘๘ ก็ได้ และให้น าบทบัญญัติในมาตรา ๖๖ มาใช้บังคับโดยอนุโลม”
มาตรา ๖๖ (๑) (๒) ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์การออกหมายจับ วางหลักการโดยสรุปว่า “เหตุที่จะออกหมายจับได้
เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้กระท าความผิดอาญา” สอดคล้องกับบทบัญญัติมาตรา ๕๙/๑
ที่ว่า “ก่อนออกหมาย จะต้องปรากฏพยานหลักฐานตามสมควรที่ท าให้ศาลเชื่อได้ว่ามีเหตุที่จะออกหมายตาม
มาตรา ๖๖ มาตรา ๖๙ หรือมาตรา ๗๑”
เมื่อต้องน าหลักเกณฑ์การออกหมายจับมาใช้บังคับกับการออกหมายขังโดยอนุโลม การออกหมายขัง
ี
่
ผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวน จึงต้องมพยานหลักฐานตามสมควรที่เชื่อได้วาบุคคลใดน่าจะได้กระท า
ความผิดอาญา ดังนั้น ก่อนออกหมายขัง ผู้พพากษาอาจตั้งเงื่อนไขก าหนดในใจว่า พยานหลักฐานควรมี
ิ
เพยงใดที่ศาลจะออกหมายจับได้ ในการออกหมายขังผู้ต้องหา ก็ควรต้องมีพยานหลักฐานในระดับนั้น
ี
คงยกเว้นเฉพาะการออกหมายขังผู้ต้องหาที่ถูกจับตามหมายจับ เพราะศาลได้พจารณาพยานหลักฐานตาม
ิ
สมควรแล้วก่อนออกหมายจับ แต่ก็คงยกเว้นเฉพาะการออกหมายขังตามข้อหาที่ออกหมายจับไปแล้วเท่านั้น
ถ้าออกหมายขังเกินกว่าข้อหาตามหมายจับ ก็ต้องมีพยานหลักฐานตามสมควรก่อนออกหมายขังอยู่นั่นเอง เช่น
เจ้าพนักงานจับบุคคลตามหมายจับในข้อหาท าร้ายร่างกาย แต่ในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา
พยายามฆ่าและน าตัวมาขอให้ศาลออกหมายขังข้อหาพยายามฆ่า ศาลก็ต้องพจารณาว่ามีพยานหลักฐานตาม
ิ
สมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระท าความผิดข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่ หรือกรณีศาลออกหมายขังในข้อหาวิ่งราว
ั
ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๖ วรรคแรก แต่เมื่อฝากขงใกล้ครบ ๔๘ วัน ปรากฏว่าพนักงาน