Page 122 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 122

๑๐๙



                                                                             ิ
                                                                                    ั
               ครบถ้วนก่อน แต่เมื่อเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นโดยชอบ ศาลย่อมใช้ดุลพนิจรับฟงได้ตามประมวลกฎหมาย
                                                ๙
               วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๖/๑
                                                                                                     ั
                                  ิ
                       ปัญหาที่ต้องพจารณาต่อไปมีว่า ค าให้การของผู้ถูกจับที่ให้การซัดทอดผู้ร่วมกระท าผิด จะรับฟงเป็น
                                                                       ิ
               พยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ร่วมกระท าผิดได้หรือไม่ ถ้าพจารณาบทบัญญัติมาตรา ๘๔ วรรคท้าย
                                         ั
               เห็นได้ชัดว่า กฎหมายห้ามรับฟงเฉพาะค าให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้กระท าผิดเท่านั้น ไม่รวมถึงค าให้การ
               ซัดทอดว่ามีผู้อื่นร่วมกระท าผิด ศาลจึงใช้ดุลพินิจรับฟังค าซัดทอดดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในการออกหมาย

                                          ิ
                                                                                               ี
               ขังผู้ร่วมกระท าผิดได้ (เทียบค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๖๒๔๓/๒๕๕๔, ๒๔๔๓/๒๕๖๐) แต่ล าพงเพยงค าซัดทอด
                                                                                            ั
               ของผู้ร่วมกระท าผิด ถ้าไม่มีพยานหลักฐานอื่นประกอบ ก็ยังไม่น่าเชื่อถือหรือมีน้ าหนักเพยงพอที่จะออกหมาย
                                                                                        ี
               ขังได้ จึงต้องฟังประกอบกับพยานหลักฐานอื่นต่อไปจึงจะออกหมายขังได้
                       หากจะกล่าวแยกย่อยลงไปถึงตัวพยานหลักฐานหลักในการพิจารณาออกหมายขัง แบ่งได้เป็น ๒ กรณี
               กรณีแรก ถ้าจับในความผิดซึ่งหน้า พยานที่ต้องมีแน่นอนในชั้นออกหมายขัง คือ พยานผู้จับกุม อาจมาให้

                                                                                      ่
               การด้วยตนเองหรือบันทึกค าให้การก็ได้ ความส าคัญของพยานผู้จับกุมอยู่ตรงที่วา ศาลจะได้ตรวจสอบ
                                                             ี
                             ี
                                                                            ่
                                                        ่
               ข้อเท็จจริงวามเหตุตามกฎหมายที่จับได้โดยไมต้องมหมายจับหรือไม เพราะข้อเท็จจริงส่วนนี้ไม่ได้อยู่ใน
                          ่
               ความรู้เห็นของพนักงานสอบสวน ถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการจับไม่ชอบด้วยกฎหมาย พนักงานสอบสวน

               ก็ไม่มีอานาจควบคุมตัวผู้ต้องหามาขอให้ศาลออกหมายขังได้ (เทียบค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๔๖๖/๒๕๔๑)
                                                                             ิ
               ต่อเมื่อเป็นการจับโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงจะพจารณาต่อไปว่ามีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะออก
                                                            ิ
               หมายขังหรือไม่ ดังนั้น การที่ผู้ร้องมีค าให้การของเจ้าพนักงานผู้จับเป็นอย่างน้อย ซึ่งปกติจะมีทั้งข้อเท็จจริงใน
               ส่วนของเหตุอนเป็นข้อยกเว้นที่จับได้โดยไม่ต้องมีหมายจับกับข้อเท็จจริงที่เป็นเนื้อหาของการกระท าผิดของ
                           ั
               ผู้ถูกจับ ถือว่าเพยงพอที่ศาลจะออกหมายขังได้ แต่ในบางกรณีก็ขึ้นอยู่กับข้อหาของพนักงานสอบสวนด้วย
                             ี
               โดยเฉพาะถ้าพนักงานสอบสวนยื่นค าร้องขอฝากขังในข้อหาซึ่งไม่สามารถพจารณาจากค าให้การของผู้จับอย่าง
                                                                             ิ
                                                     ื่
                              ิ
               เดียว ศาลก็ต้องพจารณาจากพยานหลักฐานอน ๆ ประกอบ เช่น จับผู้ต้องหาที่กระท าผิดซึ่งหน้าในขณะใช้มีด
               เป็นอาวุธแทงท าร้ายผู้เสียหาย แต่พนักงานสอบสวนขอออกหมายขังในข้อหาพยายามฆ่า พยานหลักฐานใน

               การออกหมายขัง ก็ต้องมีค าให้การของเจ้าพนักงานผู้จับซึ่งให้การยืนยันถึงอาวุธ วิธีการท าร้าย และลักษณะ
               บาดแผลของผู้ถูกท าร้าย หากในค าให้การไม่มีรายละเอียดดังกล่าว ก็ต้องมีพยานหลักฐานอื่น ๆ ประกอบ เช่น

                                                                          ื่
               ภาพถ่ายอาวุธมีดของกลางกบรายงานการชันสูตรบาดแผลของแพทย์เพอพจารณาว่าเป็นอาวุธร้ายแรงและถูก
                                                                             ิ
                                       ั
               ท าร้ายที่อวัยวะส าคัญหรือไม่ หากยังไม่ได้ผลการตรวจชันสูตรบาดแผล ก็ต้องมีรูปภาพบาดแผลให้ศาล
                                           ี
               พจารณา เหล่านี้เป็นต้น ล าพงเพยงค าให้การของเจ้าพนักงานผู้จับซึ่งให้การว่าผู้ต้องหาพยายามฆ่าผู้เสียหาย
                 ิ
                                        ั
               แต่กลับไม่มีข้อเท็จจริงดังกล่าวทั้งจากในค าให้การและจากพยานหลักฐานประกอบอื่น ๆ ศาลก็คงออกหมายขัง
               ในข้อหาท าร้ายร่างกายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้ในชั้นแรก ศาลจะออกหมายขังในข้อหาที่เบากว่าที่พนักงาน

                                                                                        ิ่
               สอบสวนแจ้งข้อหา ก็ไม่ได้หมายความว่า พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอยการจะเพมเติมพยานหลักฐาน
                                                                               ั


                                                                        ิ
                                                                                                        ิ่
                       ๙  ธานี สิงหนาท, ค าอธิบายพยานหลักฐาน คดีแพ่งและคดีอาญา, พมพ์ครั้งที่ ๑๗ (กรุงเทพฯ: กรุงสยาม พับลิชชง,
               ๒๕๖๔), น. ๔๒๐.
   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127