Page 121 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 121
๑๐๘
ิ
๕
ปฏิปักษ์ต่อตนเองได้ และบทบัญญัตินี้มิได้ใช้บังคับเฉพาะในชั้นพจารณาเท่านั้น หากแต่ใช้บังคับใน
ชั้นสอบสวนด้วย เพราะการที่พนักงานสอบสวนน าตัวผู้ต้องหามาขอให้ศาลออกหมายขัง (ฝากขัง) ถือเป็นการ
ื่
“ด าเนินการทั้งหลายอนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้” ตามค านิยาม “การสอบสวน” มาตรา ๒
ิ
(๑๑) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา พนักงานสอบสวนจึงไม่อาจน าถ้อยค ารับสารภาพของ
๖
ผู้ถูกจับมาใช้เป็นพยานหลักฐานในการยื่นค าร้องขอให้ศาลออกหมายขังได้ และศาลจะใช้ดุลพินิจรับฟังไม่ได้
ถ้อยค ารับสารภาพที่ผู้ถูกจับ “ให้ไว” ต่อเจ้าพนักงานผู้จับหรือรับมอบตัวผู้ถูกจับ อาจเป็นถ้อยค ารับ
้
สารภาพที่ผู้ถูกจับเขียนด้วยลายมือตนเองแล้วมอบให้แก่เจ้าพนักงานผู้จับหรือถ้อยค ารับสารภาพที่
เจ้าพนักงานผู้จับท าขึ้นและให้ผู้ถูกจับลงชื่อรับรองไว้ เช่น ถ้อยค ารับสารภาพที่ปรากฏในบันทึกการจับกุมหรือ
บันทึกการตรวจค้น ถ้อยค ารับสารภาพที่เขียนลงในส าเนาหมายจับหรือหมายค้น แม้กระทั่งถ้อยค ารับสารภาพ
ที่เจ้าพนักงานผู้จับเขียนก ากับไว้ใต้ภาพถ่ายของกลางแล้วให้ผู้ถูกจับลงชื่อรับรองไว้ว่าของกลางดังกล่าวเป็น
ของตน ถ้าเป็นความผิดฐานที่มีไว้ในครอบครอง ก็อาจถือเป็นถ้อยค ารับสารภาพของผู้ถูกจับได้เช่นกัน และยัง
รวมถึงถ้อยค ารับสารภาพที่ผู้ถูกจับให้ไว้ต่อเจ้าพนักงานผู้รับมอบตัวผู้ถูกจับด้วย เช่น ราษฎรจับผู้กระท า
ิ
ความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๗๙ แล้วส่งมอบตัวผู้ถูกจับให้แก่
เจ้าพนักงาน ถ้าผู้ถูกจับให้ถ้อยค ารับสารภาพต่อเจ้าพนักงานผู้รับมอบตัว ถ้อยค ารับสารภาพดังกล่าวรับฟังเป็น
พยานหลักฐานในการออกหมายขังไม่ได้
ื่
ส่วนถ้อยค าอนนอกจากค ารับสารภาพ เมื่อได้มีการแจ้งสิทธิตามมาตรา ๘๔ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา
ั
๘๓ วรรคสองครบถ้วนแล้ว ย่อมรับฟงเป็นพยานหลักฐานในการออกหมายขังได้ เช่น ผู้ต้องหารับต่อ
่
เจ้าพนักงานต ารวจผู้จับว่าได้น าไพที่ใช้เล่นการพนันไปทิ้งลงถังขยะและน าเจ้าพนักงานไปยึดไพดังกล่าวเป็น
่
ื่
ของกลาง ถือเป็นถ้อยค าอน มิใช่ค ารับสารภาพว่าได้กระท าความผิดฐานเล่นการพนัน เมื่อได้แจ้งสิทธิครบถ้วน
แล้ว ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดของผู้ถูกจับได้ ผู้ต้องหารับว่าน าอาวุธของกลางไปซุกซ่อนที่
๗
๘
ใด รับว่าตนเองอยู่ในที่เกิดเหตุจริง รับว่าเคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน หรือให้การรับในบันทึก
ิ
การจับกุมว่าเป็นผู้ดูแลและเฝ้าของกลางเมทแอมเฟตามีน โดยได้รับค่าจ้างวันละ ๒๐๐ บาท (ค าพพากษา
ื่
ศาลฎีกาที่ ๘๕๖๙/๒๕๖๑) ถ้อยค าเหล่านี้ ถือว่าเป็นถ้อยค าอน ศาลรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการออกหมาย
ขังได้ อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้แจ้งสิทธิหรือแจ้งสิทธิไม่ครบถ้วน หากไม่ได้เป็นพยานชนิดที่เกิดขึ้นจากการจูงใจ
ื่
มีค ามั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอน อนต้องห้ามมิให้รับฟงโดยเด็ดขาดตามมาตรา
ั
ั
๒๒๖ แล้ว ศาลสามารถใช้ดุลพนิจรับฟงได้ เพราะพยานชนิดนี้แม้ได้มาโดยมิชอบเนื่องจากไม่ได้แจ้งสิทธิ
ั
ิ
ั้
๕ เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์, ค าอธิบาย หลักกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าด้วยการด าเนินคดีในขนตอนก่อนการ
พิจารณา, พิมพ์ครั้งที่ ๗ (กรุงเทพฯ: พลสยาม พริ้นติ้ง, ๒๕๕๓), น. ๔๑๐.
๖ คนึง ฦๅไชย, กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เล่ม ๑, พิมพ์ครั้งที่ ๑๑ (กรุงเทพฯ: วิญญูชน, ๒๕๖๑), น. ๑๐๕.
๗ ธงค าตอบข้อสอบเนติบัณฑิต ปี ๒๕๕๘ สมัยที่ ๖๘ ภาค ๒ ข้อ ๖.
๘ สหรัฐ กิติ ศุภการ, หลักและค าพิพากษา กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา, พิมพ์ครั้งที่ ๑๑ (กรุงเทพฯ: อมรินทร์พ
ริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, ๒๕๖๓), น. ๒๗๑ – ๒๗๒.