Page 1230 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1230

๑๒๑๘



                                                                                                    ื่
                                                      ่
                            (๑) ศาลชั้นต้น ได้แก่ ศาลแพง ศาลอาญา ศาลจังหวัด ศาลแขวง และศาลชั้นต้นอน ตามที่
                 บัญญัติไว้ในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา ๒

                                                     ุ
                                      ุ
                                                                                          ุ
                                                               ุ
                            (๒) ศาลชั้นอทธรณ์ ได้แก่ ศาลอทธรณ์ ศาลอทธรณ์ภาค ๑ ถึงภาค ๙ และศาลอทธรณ์คดีช านัญพิเศษ
                 ตามที่บัญญัติไว้ในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา ๓
                            (๓) ศาลฎีกา


                                  ื่
                               ทั้งนี้เพอกลั่นกรองตรวจสอบการด าเนินกระบวนพจารณาตลอดจนการออกค าสั่งหรือ
                                                                           ิ
                     ิ
                 ค าพพากษาโดยศาลที่มีล าดับชั้นสูงกว่า เว้นแต่การด าเนินคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองที่มี

                 กฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะว่าให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองมีอานาจ
                                                                                                      ุ
                 พิจารณาพิพากษาคดี และค าพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองให้อทธรณ์
                                                                                ิ
                                                                      ุ
                 ได้ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าการให้สิทธิอทธรณ์ค าพพากษาหรือค าสั่งของศาลชั้นต้น
                                           ุ
                               ื่
                                                                                            ิ
                 มีวัตถุประสงค์เพอให้ศาลชั้นอทธรณ์ซึ่งเป็นศาลที่มีล าดับชั้นสูงกว่าได้ควบคุมการใช้ดุลพนิจของศาลชั้นต้น
                                                                               ิ
                                     ิ
                 เพอป้องกันมิให้ใช้ดุลพนิจเกินสมควร (supervisory power)  เพราะผู้พพากษาศาลอทธรณ์ย่อมมีมุมมอง
                                                                                          ุ
                   ื่
                                                                     ๑
                                                                   ิ
                                                    ิ
                 จากประสบการณ์ท างานและการใช้ดุลพนิจมามากกว่าผู้พพากษาศาลชั้นต้น และยังเป็นการคุ้มครองสิทธิ
                                                            ุ
                 เสรีภาพของประชาชนอกด้วย โดยคู่ความสามารถอทธรณ์เพอให้ศาลชั้นอทธรณ์แก้ไขค าพพากษา ค าสั่ง หรือ
                                                                                            ิ
                                                                              ุ
                                     ี
                                                                   ื่
                                                                 ี
                                                                        ั
                 กระบวนพจารณาใดๆในศาลชั้นต้นที่ไม่ถูกต้องเสียใหม่อกครั้ง อนเป็นการตรวจสอบการท าหน้าที่ของศาล
                          ิ
                                         ้
                 ชั้นต้นตามประเด็นที่กล่าวอางไว้ในอทธรณ์ เพอให้เกิดความยุติธรรมและเป็นประโยชน์แก่คู่ความมากที่สุด
                                                ุ
                                                        ื่
                                                                                ุ
                                                                                         ิ
                                                              ่
                 แต่อย่างไรก็ดีบทความทางวิชาการนี้มุ่งศึกษาในคดีแพงที่คู่ความได้ใช้สิทธิอทธรณ์ค าพพากษาหรือค าสั่งของ
                                                                                    ี
                                                                        ุ
                                                ุ
                 ศาลชั้นต้นไปแล้ว หากแต่ต่อมาผู้อทธรณ์ไม่ประสงค์ที่จะยื่นอทธรณ์ต่อไปอกไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เช่น
                               ุ
                 ปัญหาตามที่ได้อทธรณ์ได้รับการเยียวยาหมดสิ้นไปแล้ว หรือคู่ความสามารถตกลงกันได้เป็นอย่างอนแล้ว
                                                                                                      ื่
                                                        ี
                 เป็นต้น จึงขอถอนอทธรณ์เสีย โดยที่คู่ความอกฝ่ายหนึ่งก็ไม่ได้คัดค้าน และส านวนคดียังคงอยู่ที่ศาลชั้นต้น
                                  ุ
                 ไม่ได้ถูกส่งขึ้นไปยังศาลชั้นอทธรณ์ เช่นนี้จึงมีแนวคิดว่ายังมีความจ าเป็นต้องส่งส านวนคดีไปให้ศาลชั้นอทธรณ์
                                        ุ
                                                                                                      ุ
                 เป็นผู้พิจารณาค าบอกกล่าวหรือค าร้องขอถอนอุทธรณ์เพอให้เป็นไปตามล าดับชั้นศาลอยู่อีกหรือไม่
                                                                ื่
                        ๒.๒ หลักธรรมาภิบาล (Good Governance)
                            ธรรมาภิบาล หมายถึง การบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีเป็นแนวทางส าคัญในการ
                 จัดระเบียบให้สังคมรัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งครอบคลุมถึงฝ่ายวิชาการ ฝ่ายปฏิบัติการ

                        ๑  รุจิรา กิติภัทรภูมิกุล, “ปัญหาการใช้สิทธิฎีกาคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา” (หลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล
                 รุ่นที่ ๑๙), หน้า ๑๒.
   1225   1226   1227   1228   1229   1230   1231   1232   1233   1234   1235