Page 1229 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21

๑๒๑๗

ิ
ุ
ื่
และเพอเป็นการลดปริมาณคดีที่ต้องขึ้นสู่การพจารณาของศาลชั้นอทธรณ์โดยไม่จ าเป็น ให้ศาลชั้นอทธรณ์
ุ
ได้มีเวลาพจารณาเฉพาะคดีที่คู่ความยังคงมีข้อพพาทกันอยู่อย่างแท้จริงให้เสร็จไปโดยรวดเร็ว อนเป็นการ
ิ
ิ
ั
ั
ิ
ิ
พฒนามาตรฐานการพจารณาพพากษาคดีของศาลยุติธรรมให้มีความรวดเร็วต่อเนื่องและเป็นธรรม
ปรับปรุงขั้นตอนการด าเนินการของศาลยุติธรรมให้มีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็วมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชน
ได้รับความเป็นธรรมอย่างเสมอภาค ลดขั้นตอน ลดภาระค่าใช้จ่าย ลดระยะเวลาในการด าเนินคดี ดังนั้น

ุ
ิ
ุ
ถ้าให้ศาลชั้นต้นมีอานาจพจารณาสั่งค าบอกกล่าวหรือค าร้องขอถอนอทธรณ์โดยอนุญาตให้ถอนอทธรณ์
ุ
ื่
ุ
ได้ในคดีที่ส านวนยังอยู่ในศาลชั้นต้น ซึ่งจ าเลยอทธรณ์ไม่คัดค้านการขอถอนอทธรณ์ และไม่มีคู่ความอน
ุ
ี
ยื่นอทธรณ์อยู่อก หากไม่ท าให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสียเปรียบแล้ว ย่อมจะเป็นประโยชน์แก่คู่ความ
ทุกฝ่ายตลอดจนการบริหารส านวนคดีของศาลมากยิ่งกว่าที่ต้องส่งไปให้ศาลชั้นอทธรณ์มีค าสั่งในทุกกรณี
ุ
หรือไม่ จึงเป็นเหตุให้ผู้เขียนหยิบยกถึงปัญหาที่พบในระหว่างปฏิบัติราชการที่ศาลจังหวัดนนทบุรีขึ้น
มาวิเคราะห์ และน าเสนอข้อคิดเห็นว่ามีกฎหมาย ทฤษฎี หรือแผนนโยบายใดสนับสนุนเป็นแนวทางให้
ิ
ุ

ิ

ศาลชั้นต้นมีอานาจพจารณาสั่งถอนอทธรณ์ได้หรือไม่ และหากให้ศาลชั้นต้นมีอานาจพจารณาสั่งแล้ว
ื่

จะก่อให้เกิดความเสียหายหรือเป็นประโยชน์มากยิ่งกว่ากัน เพอแก้ไขข้อจ ากัดเรื่องอานาจของศาลชั้นต้น
ในการพิจารณาและมีค าสั่งอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์
๒ แนวคิดทฤษฎีและหลักกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง
๒.๑ ระบบศาลในประเทศไทย

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทธศักราช ๒๕๖๐ หมวด ๑๐ บัญญัติถึงศาลโดยแบ่งแยก
ุ
ออกเป็น ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร ซึ่งการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอ านาจของศาล โดยต้อง

ด าเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ส าหรับศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็น
องค์กรตุลาการที่มีอานาจหน้าที่ในการวินิจฉัยชี้ขาดตีความว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดขัดหรือแย้ง

ต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งมีอ านาจหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ระบอบการปกครองและความมั่นคงแห่งรัฐนั้น

ื่
ิ
มีข้อสังเกตว่าไม่มีหน้าที่พจารณาตัดสินอรรถคดีทั่วไปเหมือนศาลอน จึงถูกแบ่งแยกไว้ต่างหากจากหมวดศาล
โดยบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในหมวดที่ ๑๑ ส าหรับบทความทางวิชาการนี้จะศึกษาเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ
ศาลยุติธรรมเท่านั้น

ศาลยุติธรรม มีอานาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง เว้นแต่คดีรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายบัญญัติ

ให้อยู่ในอานาจของศาลอน เช่น คดีปกครอง โดยแบ่งอานาจในการด าเนินคดีออกเป็น ๓ ล าดับชั้น

ื่
กล่าวคือ