Page 138 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 138

๑๒๕

                                                                                    ั
                 เฉพาะของจ าเลย แต่กลับอยู่ในความรู้เห็นของโจทก์เท่านั้น ข้อเท็จจริงจึงรับฟงได้ว่า ข้าวสารบรรจุถุงของ
                 จ าเลยมิได้เป็นสินค้าไม่ปลอดภัย จ าเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่
                 เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๗


                            ิ
                                                                           ้
                        ค าพพากษาฎีกาที่ ๑๔๕๕/๒๕๖๒ เป็นคดีที่โจทก์ผู้บริโภคฟองผู้ผลิต ผู้จ าหน่าย ตัวแทนผู้จ าหน่าย
                 และผู้ให้เช่าซื้อ โดยอางว่าเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัยตามพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
                                   ้
                 จากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๑ แต่เนื่องจากนิยามค าว่า “ผู้ประกอบการ” ในพระราชบัญญัติดังกล่าว


                 ไม่ได้ครอบคลุมถึง ผู้จ าหน่าย และตัวแทนผู้จ าหน่าย และผู้ให้เช่าซื้อ ในคดีนี้ด้วย จึงมีปัญหาว่าโจทก์มีอานาจ
                  ้
                                                                            ้
                 ฟองบุคคลดังกล่าวหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหานี้ว่า โจทก์บรรยายฟองถึงเหตุแห่งความรับผิดว่า รถพพาท
                                                                                                        ิ
                 มีความช ารุดบกพร่อง เครื่องยนต์ดับในขณะที่รถแล่นหรือจอดและไม่สามารถติดเครื่องยนต์ได้ ก่อให้เกิดความ
                                                ื่
                 ไม่ปลอดภัยในชีวิตของโจทก์และผู้อน เป็นการฟองให้รับผิดตามตามพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความ
                                                           ้
                                                                   ้
                 เสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๑ และฟองให้รับผิดในความช ารุดบกพร่องของสินค้าตาม
                 ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์และพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ ด้วย ศาลฎีกา
                                                                   ิ
                                   ่
                 จึงวินิจฉัยว่า โจทก์มีอ านาจฟ้องจ าเลยทั้งสี่

                 การสืบพยานในคดีผู้บริโภค


                        ในการสืบพยานคดีผู้บริโภค อาจเริ่มตั้งแต่ก่อนฟองคดี โดยที่บุคคลใดอาจเกรงว่าพยานหลักฐานที่ตน
                                                                ้
                                                                          ้
                            ิ
                 อาจต้องอ้างองในภายหน้าจะสูญหายหรือยากแก่การน ามาเมื่อมีการฟองคดี บุคคลฝ่ายนั้นอาจยื่นค าขอต่อศาล
                 และศาลอาจมีค าสั่งให้สืบพยานหลักฐานนั้นไว้ทันทีก็ได้ หรือกรณีที่มีการฟองคดีแล้ว คู่ความฝ่ายใดเห็นว่า
                                                                                ้
                                           ้
                                              ิ
                 พยานหลักฐานที่ตนจ านงจะอางองจะสูญหายก่อนที่จะน ามาสืบหรือเป็นการยากที่จะน าสืบในภายหลัง
                 ก็สามารถยื่นค าขอต่อศาลให้สืบพยานหลักฐานนั้นทันทีก็ได้ตามเงื่อนไขทก าหนดในพระราชบัญญัติวิธีพิจารณา
                                                                             ี่
                                                                                                     ิ
                 คดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๒ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับที่ก าหนดในประมวลกฎหมายวิธีพจารณา
                 ความแพ่ง มาตรา ๑๐๑

                        โดยทั่วไป ศาลในคดีผู้บริโภคจะเป็นผู้ซักถามพยานก่อน ไม่ว่าจะเป็นพยานที่คู่ความฝ่ายใดอางหรือที่
                                                                                                    ้
                 ศาลเรียกมาเอง และคู่ความหรือทนายความจะซักถามพยานได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากศาล นอกจากนี้ให้ศาล
                                                                                                    ้
                 มีอานาจซักถามพยานเกี่ยวกับข้อเท็จจริงใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับคดีแม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอางก็ตาม

                                                                                     ิ
                                                                                            ิ
                 รวมถึงศาลอาจขอให้ผู้ทรงคุณวุฒิหรือเชี่ยวชาญมาให้ความเห็นเพอประกอบการพจารณาพพากษาคดีได้ ทั้งนี้
                                                                       ื่
                 เพอให้การด าเนินกระบวนพจารณาเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเป็นการช่วยเหลือคู่ความที่ไม่มีทนายความ
                   ื่
                                         ิ
                 ช่วยเหลือก็จะสามารถน าพยานเข้าสืบได้
                                                   ๗

                        ๗  พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๓๔ และ ๓๖
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143