Page 199 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 199

๑๘๖


                                                                      ั
                 มาตรการชั่วคราวก่อนการบังคับช าระค่าปรับ ถ้าศาลเห็นเหตุอนควรสงสัยว่าผู้นั้นจะหลีกเลี่ยงไม่ช าระ
                 ค่าปรับ ศาลจะสั่งเรียกประกันหรือจะสั่งกักขังผู้นั้นแทนค่าปรับไปพลางก่อนก็ได้ จึงมีผลว่าศาลอาจมีค าสั่ง
                                                 ิ
                 ให้กักขังแทนค่าปรับได้ทันทีตั้งแต่มีค าพพากษา
                        ค าพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๐๖/๒๕๓๘ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ มีเจตนารมณ์ให้ผู้ต้องโทษ

                 ปรับช าระค่าปรับ ส่วนการบังคับให้ช าระค่าปรับจะใช้วิธียึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับหรือวิธีกักขังแทนค่าปรับอยู่
                                                                             ั
                 ที่ศาลจะเลือกใช้ตามรูปคดี ส่วนที่กฎหมายบัญญัติว่าถ้าศาลเห็นเหตุอนควรสงสัยว่าผู้นั้นจะหลีกเลี่ยง
                 ไม่ช าระค่าปรับศาลจะเรียกประกันหรือจะสั่งให้กักขังผู้นั้นแทนค่าปรับไปพลางก่อนก็ได้นั้น เป็นเพยงการ
                                                                                                  ี
                 ก าหนดมาตรการชั่วคราวก่อนด าเนินการตามวิธีที่ศาลเลือกใช้เท่านั้น เมื่อศาลชั้นต้นเลือกใช้วิธียึดทรัพย์สิน

                 ใช้ค่าปรับ การที่ศาลชั้นต้นออกหมายกักขังเมื่อคดีถึงที่สุดให้กักขังจ าเลยแทนค่าปรับ จึงเป็นการออกหมาย

                 ผิดพลาด หาใช่ศาลชั้นต้นเปลี่ยนแปลงค าสั่งเดิมเป็นให้กักขังจ าเลยแทนค่าปรับไม่
                        ตามค าพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าว เห็นได้ว่า ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าค าสั่งของศาลที่ให้กักขังจ าเลย

                 แทนค่าปรับไปพลางก่อน เป็นมาตรการชั่วคราวก่อนการบังคับช าระค่าปรับ
                                                     ิ
                        จึงมีปัญหาให้วิเคราะห์ว่า เมื่อศาลพพากษาให้ปรับและจ าเลยไม่ช าระค่าปรับ โดยเฉพาะในคดีอาญา
                 ความผิดไม่ร้ายแรง ค่าปรับมีจ านวนไม่สูงมาก ยังอยู่ในวิสัยที่จ าเลยจะช าระค่าปรับได้ภายใน ๓๐ วัน การที่

                                                                                            ั
                 จ าเลยยังไม่มีเงินช าระค่าปรับในวันที่ศาลพพากษา พฤติการณ์ดังกล่าวจะถือว่าเป็นเหตุอนควรสงสัยว่า
                                                     ิ
                                                                                       ั
                 จ าเลยจะหลีกเลี่ยงไม่ช าระค่าปรับหรือไม่ หากพฤติการณ์ดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นเหตุอนควรสงสัยว่าจ าเลย
                 หลีกเลี่ยงไม่ช าระค่าปรับ ศาลจะสั่งให้กักขังจ าเลยแทนค่าปรับทันทีได้หรือไม่ และหากฟงว่าศาลยังมี
                                                                                              ั
                                                              ั
                 อานาจกักขังจ าเลยแทนค่าปรับได้ทันทีแม้ไม่มีเหตุอนควรสงสัยว่าจ าเลยจะหลีกเลี่ยงไม่ช าระค่าปรับ

                 เหตุใดกฎหมายจึงต้องก าหนดให้เวลาจ าเลยช าระค่าปรับภายใน ๓๐ วัน และก าหนดให้ศาลสั่งกักขังจ าเลย
                 แทนค่าปรับก่อนครบเวลาดังกล่าวเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าจ าเลยจะหลีกเลี่ยงไม่ช าระค่าปรับเท่านั้น
                                        ิ
                        นอกจากนั้น เมื่อพจารณาบทบัญญัติมาตรา ๒๙ วรรคหนึ่งแล้ว เห็นได้ว่า กฎหมายบัญญัติไว้โดย
                 ชัดเจนว่า เมื่อจ าเลยไม่ช าระค่าปรับภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ศาลพพากษา ศาลจึงจะดุลพนิจสั่งให้ยึด
                                                                                               ิ
                                                                           ิ
                                                        ื่
                                                                                                      ิ
                 ทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินเพอใช้ค่าปรับ หรือกังขังแทนค่าปรับ และศาลจะใช้ดุลพนิจ
                                                                                                   ั
                 สั่งให้กักขังแทนค่าปรับไปพลางก่อน ซึ่งหมายความว่า กักขังแทนค่าปรับทันที เมื่อศาลเห็นเหตุอนควร
                 สงสัยว่าจ าเลยจะหลีกเลี่ยงไม่ช าระค่าปรับ การที่มาตรา ๒๙ บัญญัติหลักเกณฑ์ไว้ดังกล่าว ถือได้หรือไม่ว่า
                                           ั
                                                                                           ิ
                 เป็นกรณีที่กฎหมายยกเว้น “วนเริ่มบังคับโทษปรับ” โดยไม่ให้เริ่มบังคับในวันมีค าพพากษา เว้นแต่
                 ศาลเห็นเหตุอนควรสงสัยว่าจ าเลยจะหลีกเลี่ยงไม่ช าระค่าปรับ จึงเริ่มบังคับโทษปรับได้ทันที ในท านอง
                             ั
                 เดียวกับ การเริ่มนับโทษจ าคุก ซึ่งกฎหมายยกเว้นให้เริ่มนับในวันอนที่ไม่ใช่วันมีค าพพากษาได้ ตาม
                                                                                           ิ
                                                                           ื่
                 ประมวลฎหมายอาญา มาตรา ๒๒ วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า “โทษจ าคุกให้เริ่มแต่วันมีค าพพากษา แต่ถ้า
                                                                                            ิ
                          ิ
                 ผู้ต้องค าพพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หักจ านวนวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจ าคุกตามค า
                 พิพากษา เว้นแต่ ค าพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น”
                        ค าพพากษาฎีกาที่ ๒๔๖๙/๒๕๖๐ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๒ วรรคหนึ่ง เป็นบทก าหนด
                            ิ
                 หลักเกณฑในการบังคับโทษจ าคุกว่าให้เริ่มนับแต่วันที่ศาลมีค าพพากษา โดยมีข้อยกเว้นในกรณีที่ศาลจะม  ี
                                                                      ิ
                          ์
   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203   204