Page 61 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21

๔๘

ี
เป็นการตัดโอกาสของผู้กระทําความผิดไม่ให้ทํากระทําความผิดซ้ําอก ซึ่งมาตรการ Deterrence เป็นทางเลือก
7
ใหม่แทนการลงโทษจําคุก ซึ่งทฤษฎี The Just Deserts Model จะลงโทษให้เหมาะสมแก่อาชญากรรม
โดยมีสาระว่าเมื่อใดผู้กระทําความผิดปฏิบัติตามเงื่อนไขเพอการลงโทษครบถ้วนแล้วจะถือได้ว่าสังคมได้รับ
ื่
ิ
การชดใช้ ซึ่งมลทินได้ถูกชําระล้างแล้ว แต่อย่างไรในยุคนั้นแนวคําพพากษาของศาลประเทศสหรัฐอเมริกาก็
ยังยืนหลักการแก้แค้นทดแทนและการตัดสิทธิบางประการเพื่อยับยั้งไม่ให้กล้ากระทําความผิด

ต่อมากลางปี ค.ศ. 1980 มีผลการวิจัยที่สํารวจในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้ถูกคุมความประพฤติ
ของประเทศสหรัฐอเมริกาถูกจับใหม่เกือบร้อยละ 65 ในความรุนแรงและความผิดระดับกลาง และร้อยละ 51
ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในคดีใหม่ระหว่างที่อยู่ในการดูแลของพนักงานคุมประพฤติซึ่งในช่วยนั้นพนักงาน

คุมประพฤติมีคดีที่ต้องดูแลอยู่ในระดับสูง ต่อมาในปี ค.ศ. 1990 พนักงานคุมประพฤติของประเทศ
สหรัฐอเมริกามีการพัฒนาหลักการแนวคิดในการปฏิบัติงานใหม่เป็นการรวมเอาปรัชญาดั้งเดิมเกี่ยวกับวิธีการ

จัดการกับผู้กระทําความผิดด้วยวิธีต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยอาศัยเทคนิคการควบคุมความเสี่ยง (Risk
ื่
control) เป็นแกนของการจัดการกับผู้กระทําความผิดเพอลดอาชญากรรมและลดการกระทําความผิดซ้ํา
ซึ่งทําผ่านทางองค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐมากขึ้น โดยผ่านทางประชาชนเช่น การป้องกันอาชญากรรม (Crime

prevention) การทํางานแบบเป็นหุ้นส่วนกับชุมชน (Partnerships) การทําให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง
(Community mobilization) และกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative justice)

ั
สําหรับวิธีการคุมประพฤติได้มีการพฒนาเป็นรูปแบบการควบคุม (Control model) อนเป็น
ั
การขัดขวางยับยั้งการที่จะกระทําความผิดซ้ํา ซึ่งจนถึงปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาก็ยังคงมีการปรับตัว
มาโดยตลอดจนปัจจุบัน มาตรการต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการคุมความประพฤติได้รับการคิดค้นพฒนาไปในทางที่
ั
เข้มงวดจริงจังมากกว่าเดิม จนได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรการจัดการกับอาชญากรรมโดยไม่ใช้เรือนจํา

ที่ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดกว่าเรือนจําสําหรับความผิดที่มีระดับไม่รุนแรงมากนัก

2.2 ความเป็นมาของการคุมความประพฤติในประเทศไทย

ประเทศไทยเริ่มมีการนําระบบคุมประพฤติมาใช้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 โดยมาใช้กับ
ผู้กระทําผิดที่เป็นเด็กและเยาวชนก่อน ส่วนผู้กระทําผิดที่เป็นผู้ใหญ่นั้น แม้ประมวลกฎหมายอาญา
พ.ศ. 2499 มาตรา 56, 57 และ 58 จะได้บัญญัติถึงวิธีการเกี่ยวกับการคุมประพฤติไว้ แต่อย่างไรก็ตาม

ี
ศาลก็ใช้มาตรการรอการกําหนดโทษหรือรอการลงโทษเพยงอย่างเดียว โดยไม่ใช้วิธีการคุมความประพฤติ
เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่จะรับผิดชอบการตามคําพพากษาของศาลได้ จนกระทั่งรัฐบาลได้
ิ
ผ่านพระราชบัญญัติวิธีดําเนินการคุมความประพฤติประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2522 และได้มีการจัดตั้ง

สํานักงานคุมประพฤติกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับกอง สังกัดสํานักงานส่งเสริมตุลาการกระทรวงยุติธรรม
และได้เปิดดําเนินการเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2522 โดยดําเนินการในกรุงเทพมหานครก่อน จนปรากฏผลเป็น
ที่น่าพอใจและเพอเป็นการให้โอกาสแก่ประชาชนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศให้ได้รับประโยชน์จากวิธีการ
ื่
คุมความประพฤติจึงได้มีการขยายงานสู่ภูมิภาคมากขน จึงทําให้สํานักงานคุมประพฤติกลางมีขอบเขตอานาจ
ึ้
ํ

7 Erwin, B.S. (1990) Old and New Tools for the Modern Probation Officer. Crime and
Delinquency 36 (1): 61-74.