Page 69 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 69
๕๖
ลักษณะของงานที่ปลอดภัยเหมาะสมกับเพศ วัยและสมรรถนะของผู้ถูกคุมความประพฤติ การจัดให้ผู้ถูก
ื่
ู
คุมความประพฤติทํางานบริการสังคมนี้ถือเป็นกิจกรรมการแก้ไขฟนฟรูปแบบหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์เพอ
ื้
กระตุ้นให้ผู้ถูกคุมความประพฤติตระหนักและมีจิตสํานึกรับผิดชอบต่อผู้อนและสังคมมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็น
ื่
กิจกรรมที่จะช่วยพฒนาความภาคภูมิใจและคุณค่าแห่งตนเองและเสริมสร้างวินัยของผู้ถูกคุมความประพฤติ
ั
ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังจะเป็นการช่วยให้ผู้ถูกคมความประพฤติได้ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับส่วนรวม
ุ
จากการกระทําผิดของตนด้วยการทํางานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคมโดยส่วนรวมนั้น
10. การสงเคราะห์ เป็นการปฏิบัติงานของพนักงานคุมประพฤติในการให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือ
แก่ผู้ถูกคุมความประพฤติในด้านต่างๆ ในระหว่างการคุมความประพฤติ การให้การสงเคราะห์ดังกล่าวแยก
เป็นการให้การสงเคราะห์ในด้านต่างๆ เช่น การสงเคราะห์ค่าพาหนะ การสงเคราะห์ค่าอาหาร การ
สงเคราะห์ด้านการศึกษา การสงเคราะห์เงินทุนประกอบอาชีพ เป็นต้น
ื้
ู
ปัจจัยสําคัญที่มีผลต่อความสําเร็จในการแก้ไขฟนฟ คือ ความร่วมมือของผู้ถูกคุมความประพฤติ
ครอบครัว บุคคลใกล้ชิด และชุมชน ซึ่งสามารถสนับสนุนช่วยเหลือให้ผู้ถูกคุมความประพฤติปรับตัวและ
ึ
ปรับปรุงแก้ไขพฤตินิสัยให้เป็นพลเมืองดี มีการประพฤติปฏิบัติที่เป็นไปในทางที่พงปรารถนาและมีคุณภาพ
ชีวิตที่ดีขึ้น ทําให้สามารถดําเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างปกติสุข ดังนั้น การปฏิบัติงานของพนักงาน
คุมประพฤติจึงอาจมีการปฏิบัติงานในรายละเอยดอนๆ ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงไว้ได้อย่างไม่จํากัด โดยที่สามารถ
ี
ื่
ี
ยืดหยุ่นและมีรายละเอยดปลีกย่อยแตกต่างออกไปได้ขึ้นอยู่กับบริบทและรายละเอยดของผู้ถูกคุมความ
ี
ื้
ื่
ประพฤติแต่ละรายนั้น ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้เป้าหมายเพอการแก้ไขฟนฟผู้ถูกคุมความประพฤติให้กลับตนเป็น
ู
พลเมืองดีเป็นสําคัญ
ิ
นอกจากนี้ตามคําพพากษาของศาลยังมีการสั่งให้ผู้กระทําความผิดต้องทํางานบริการสังคมหรือ
สาธารณประโยชน์ การทํางานบริการสังคม หรือสาธารณประโยชน์ในความรับผิดชอบของกรมคุมประพฤติ
กระทรวงยุติธรรม เริ่มต้นมาจากแนวคิดเพอใช้เป็นมาตรการแก้ไขฟนฟผู้กระทําผิดในชุมชนภายใต้เงื่อนไข
ื่
ู
ื้
การคุมประพฤติ โดยศาลหรือพนักงานคุมประพฤติกําหนดให้ผู้ถูกคุมความประพฤติต้องทํางานหรือกิจกรรม
ุ
ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน หรือองค์กรสาธารณกศล โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง โดยบัญญัติไว้
ในกฎหมายเมื่อปี พ.ศ. 2532 ต่อมาปี พ.ศ. 2545 ได้ใช้การทํางานบริการสังคมเป็นมาตรการลงโทษ
ทางเลือก สําหรับผู้ต้องโทษปรับที่ยังไม่มีเงินชําระค่าปรับ และในปีเดียวกันนี้เองได้ใช้การทํางานบริการ
สังคมเป็นวิธีการร่วมกับการดําเนินการอนที่เหมาะสมเพอให้ผู้ฟนฟสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดดํารงชีวิต
ู
ื่
ื่
ื้
ี
ห่างไกลจากยาเสพติด อกทั้งยังมีแนวโน้มให้การทํางานบริการสังคมเป็นมาตรการแทนการลงโทษจําคุก
ในอนาคต
2.4.3 การท างานบริการสังคมและสาธารณประโยชน์
11
1. การทํางานบริการสังคมและสาธารณประโยชน์
แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
11 กรมคุมประพฤติ, รูปแบบการทํางานบริการสังคม (ออนไลน์), 23กรกฎาคม2564,
https://probation.go.th /contentmenu.php?id=249