Page 70 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 70

๕๗

                            รูปแบบที่ 1. การทํางานบริการสังคมแบบรายบุคคล หมายถึง การจัดให้ผู้กระทําผิดแต่ละคนไป
                 ทํางานบริการสังคมตามหน่วยงานภาคีตามความรู้  ความสามารถ  หรือการทํางานตามที่ได้รับมอบหมาย

                 จากหน่วยงาน หรือชุมชน

                            รูปแบบที่ 2. การทํางานบริการสังคมแบบกลุ่ม หมายถึง การจัดให้ผู้กระทําผิดทํางานร่วมกันเป็น
                                                                       ื่
                                                               ั
                 กลุ่มซึ่งจะช่วยฝึกทักษะด้านการเสริมสร้างความสัมพนธ์กับผู้อนให้ดีขึ้น หรือเป็นการทํางานตามความ
                 ต้องการของชุมชนที่ลักษณะงานต้องใช้คนจํานวนมาก หรือเพื่อส่งเสริมการยอมรับและความสัมพันธ์อันดี

                        กิจกรรมการทํางานบริการสังคม มีหลากหลายประเภท อาทิ การพฒนาหรือทําความสะอาด
                                                                                   ั
                 สถานที่สาธารณะ เช่น วัด โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว การปลูก และดูแลสวนป่าหรือสวนสาธารณะการ

                 ช่วยเหลือดูแลอานวยความสะดวก หรือให้ความบันเทิงแก่คนพการ เด็กกําพร้า คนชรา ในสถานสงเคราะห์
                              ํ
                                                                     ิ
                 หรือผู้ป่วยในสถานพยาบาล การสอนกีฬา ฝึกสอนวิชาชีพอื่นๆ เช่น สอนซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ารถจักรยานยนต์
                 และกิจกรมอนๆ เช่น การทํางานในห้องสมุด การทาสีเครื่องหมายจราจร การบริจาคโลหิต งานอาสาสมัคร
                            ื่
                 ช่วยผู้ประสบภัย หรือร่วมรณรงค์ป้องกันอาชญากรม เป็นต้น

                        2. ลักษณะหรือประเภทของงานในการทํางานบริการสังคม
                        - การทํางานช่วยเหลือดูแลอานวยความสะดวกหรือให้ความบันเทิงแก่คนพิการ คนชรา เด็กกาพร้า
                                               ํ
                                                                                                     ํ
                 หรือผู้ป่วยในสถานสงเคราะห์หรือสถานพยาบาล
                        - การทํางานวิชาการหรืองานบริการด้านการศึกษา เช่น การสอนหนังสือ การค้นคว้าวิจัย หรือการแปล
                 เอกสาร

                        - การทํางานที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเช่นงานช่างฝีมือ เครื่องยนต์ ก่อสร้าง คอมพวเตอร์
                                                                                                   ิ
                 หรือวิชาชีพอย่างอื่น
                        - การทํางานบริการสังคมทั่วไป เช่น การทําความสะอาดหรือพฒนาสถานที่สาธารณะงานปลูกป่า
                                                                            ั
                 หรือดูสวนป่าหรือสวนสาธารณะ
                        - การบริจาคโลหิต การร่วมรณรงค์ในกิจกรรม โครงการเพื่อสังคม

                        - งานอื่นๆ  ที่ไม่ขัดกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของการทํางานบริการสังคม

                        3. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทํางานบริการสังคม
                                                                        ิ่
                        - การทํางานบริการสังคมตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่
                 25)  พ.ศ. 2559 มาตรา 56 เป็นกรณีที่ศาลรอการกําหนดโทษหรือกําหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้แก่

                                                              ื่
                 ผู้กระทําผิดไม่เกินห้าปี  โดยศาลอาจกําหนดเงื่อนไขเพอคุมความประพฤติไว้ด้วยหรือไม่ก็ได้ซึ่งเงื่อนไขการ
                 คุมความประพฤติข้อหนึ่งได้แก่การให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานที่ศาลระบุไว้เป็นครั้งคราว เพอเจ้า
                                                                                                    ื่
                 พนักงานจะได้สอบถาม แนะนํา ช่วยเหลือ หรือตักเตือนตามที่เห็นสมควรในเรื่องความประพฤติและการประกอบ

                 อาชีพหรือจัดให้ทํากิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์  ซึ่งมีพระราชบัญญัติและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
                 ดังนี้

                        - พระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. 2559 มาตรา 29  เป็นกรณีที่พนักงานคุมประพฤติจัดให้ผู้ถูก

                                                                                                    ํ
                 คุมความประพฤติทํางานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามคําสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานผู้มีอานาจ
                      ิ
                 ต้องพจารณา ข้อมูลคดี ข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย อกทั้งงานที่จัดให้ทําจะต้องไม่ขัดหรือแย้งกับ
                                                                   ี
                 ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อทางศาสนาตลอดจนปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75