Page 732 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 732
๗๒๐
หรือชี้สองสถาน(คดีแพง) ในวันจันทร์แล้ว จะนัดสืบพยานต่อเนื่องที่ศูนย์นัดความและก าหนดวันนัดติดต่อ
่
ิ
ั
้
ตั้งแต่วันองคารถึงวันศุกร์ไปจนเสร็จคดี และควรพจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๑๒ เดือน นับแต่วันรับฟอง
ส าหรับคดีสามัญดังต่อไปนี้ควรนัดพจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือนนับแต่วันรับฟอง ๑) คดีเร่งรัด ๒)
ิ
้
คดีฟองขับไล่ ๓) คดีที่อยู่ในอานาจศาลแขวง ๔) คดีค้ามนุษย์ ๔) คดีที่เป็นที่สนใจของประชาชน ๕) คดีที่
้
ิ
ผู้พพากษาหัวหน้าศาล หรือรองอธิบดี หรืออธิบดีเห็นสมควร ส่วนคดีที่ผู้เสียหายเป็นเด็กหรือเยาวชนควร
พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือนนับแต่วันตรวจพยานหลักฐาน และคดีที่จ าเลยต้องขังควรพิจารณาให้
ิ
แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือน นับแต่วันออกหมายขังระหว่างพจารณา หากนัดเกินควรมีรางพเศษเพอให้มีการ
ื่
ิ
พิจารณาให้เร็วขึ้นในคดีที่ต้องขังเพื่อคุ้มครองสิทธิ
๑.๓ คดีสามัญพเศษ คือ คดีที่มีความยุ่งยากซับซ้อน คดีเกี่ยวกับข้อพพาททาง
ิ
ิ
การเมือง มีพยานหลักฐานต้องสืบจ านวนมากเช่น มีผู้เสียหาย ๒๐ คน มีพยาน ๕๐ ปาก จ าเลยอ้างพยาน
๓๐ คน และไม่สามารถนัดสืบต่อเนื่องได้ติดต่อกันจนเสร็จ อาจนัดคดีเช่นเดียวกับคดีสามัญแต่กรณีมีเหตุ
จ าเป็นจะนัดสืบพยานเป็นช่วงๆ ได้แต่ควรต้องแล้วเสร็จภายใน ๑๒ เดือน
ข้อสังเกต ๑) ควรมีช่องทางพิเศษเพอนัดคดีที่จ าเลยต้องขัง เช่น ควรมีวันว่างหรือเวรส ารอง และควรมีตรา
ื่
ประทับว่าจ าเลยต้องขัง
๒) กรณีนัดสืบพยานครึ่งวัน ควรแสดงสัญลักษณให้ปรากฏในบัญชีจ่ายส านวนคดี เพื่อประโยชน์
์
ในการบริหารจัดการคดี
ิ
๓) ผู้พพากษาหัวหน้าศาลควรก าชับผู้พพากษาว่าถ้าจ าเป็นต้องเลื่อนคดีควรเลื่อนเฉพาะนัดนั้นๆ
ิ
ไม่ควรยกเลิกวันนัดที่เหลือทั้งหมด
ิ
๔) เมื่อแรกเข้ารับต าแหน่งผู้พพากษาหัวหน้าศาลควรตรวจดูสถิติงานคดีค้างปีเพอประโยชน์ใน
ื่
การบริหารจัดการ โดยอาจให้ส่วนงานเก็บแดง หรือผู้อ านวยการมาเพื่อเสนอข้อมูล
๕) คดีทั่วไปที่นัดสืบเกิน ๓ นัด คดีที่จ าเลยต้องขังและนัดสืบพยานเกิน ๖ เดือน คดีตกราง ต้อง
ได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษาหัวหน้าศาลก่อนน าคดีเข้านัดในศูนย์นัดความ
๒. การก าหนดจ านวนคดีในการนัดพจารณาคดีครั้งแรก ให้ส ารวจค่าเฉลี่ยปริมาณคดีที่
ิ
ื่
ิ่
เข้าสู่ศาลย้อนหลัง ๓ ปี รวมทั้งสัญญาณที่อาจมีการเพมจ านวนคดีที่มีความเป็นไปได้เพอหาค่าเฉลี่ย แล้ว
หารด้วย ๕๐ (ประมาณจ านวนสัปดาห์ใน ๑ ปี) เมื่อได้จ านวนแล้วให้ก าหนดประเภทคดีในการนัดพิจารณา
ครั้งแรก เช่น คดีผู้บริโภค คดีอาญาสามัญ คดีเร่งรัดทั้งปี ย้อนหลัง ๓ ปี รวมเท่ากับ ๑๐,๐๐๐ คดีหารด้วย
๕๐ เท่ากับ ๒๐๐ คดีใน ๑ สัปดาห์ จึงควรนัดพจารณาคดีครั้งแรกสัปดาห์หรือวันจันทร์ละ ๒๐๐ คดี แล้ว
ิ
หารด้วยจ านวนผู้พิพากษาในศาลจะได้ปริมาณคดีของแต่ละท่านพึงต้องท าในวันจันทร์ แต่พึงระมัดระวังใน
ิ
การจ่ายส านวนเพอมิให้องค์คณะแต่ละท่านมีความจ าเป็นต้องใช้เวลาในการพจารณาจนองค์คณะอกท่าน
ี
ื่
ไม่สามารถพจารณาคดีในวันจันทร์ได้โดยเร็ว โดยอาจมีการนัดหมายคู่ความให้มีการเหลื่อมเวลาในการมา
ิ
ศาลเพอมิให้คู่ความต้องรอและไม่ให้เกิดข้อครหาของท่านองค์คณะที่ต้องท าคดีในวันจันทร์ต่อภายหลังว่า
ื่
พิจารณาล่าช้าเกินสมควร
๒.๑ การจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติในการบริหารงานคดี
๒.๑.๒ จัดเก็บตามแบบรายงานสถิติที่ สนง.ศาล ก าหนด
๒.๑.๓ จัดเก็บข้อมูลและสถิติตามที่คณะท างานคดีต่อเนื่องก าหนด
๒.๑.๔ จัดเก็บตามแบบที่หน่วยงานในสังกัด สนง.ศาล ก าหนด

