Page 874 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 874
๘๖๒
จนกระทั่งต่อมาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ื่
(Coronavirus Disease : COVID-19) ประธานศาลฎีกามีนโยบายส่งเสริมมาตรการอนแทนการลงโทษจ าคุก
ั
ื่
เพอลดการคุมขังไม่จ าเป็นในทุกขั้นตอน อนเป็นนโยบายหนึ่งของประธานศาลฎีกา เรื่อง สมดุล “สร้าง
ดุลยภาพแห่งสิทธิ” และเรื่อง เสมอภาค “ประชาชนต้องได้รับความเป็นธรรมอย่างเสมอภาค” ประธาน
ิ่
ศาลฎีกาจึงอาศัยอานาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งแก้ไขเพมเติมโดย
ิ่
พระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑ ออกค าแนะน าของ
ประธานศาลฎีกาว่าด้วยแนวทางการใช้โทษอาญา พ.ศ. ๒๕๖๓ มีหลักการที่ส าคัญว่าก่อนที่ศาลจะใช้โทษ
อาญาต้องค านึงถึงพฤติการณ์ของการกระท าผิดกับโทษที่จะลงนั้นให้ได้สัดส่วนเหมาะสมกัน และต้อง
ค านึงถึงการฟนฟผู้กระท าผิดให้รู้ส านึกในความผิดของตนเพอส่งกลับคืนสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
ื่
ื้
ู
ี
ื่
ตลอดจนป้องปรามมิให้ผู้กระท าผิดหรือผู้อนกระท าผิดซ้ าอก ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพอให้การใช้โทษ
ื่
อาญาเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ลดความเหลื่อมล้ าในกระบวนการยุติธรรม และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
โดยรวม
จากค าแนะน าของประธานศาลฎีกาในแต่ละช่วงดังกล่าว จึงเปรียบเสมือนเป็นบัญชี
มาตรฐานการลงโทษของศาล ซึ่งเป็นหลักการส าคัญและเป็นแนวทางที่จะช่วยให้การพจารณาพพากษาคดี
ิ
ิ
ของผู้พิพากษามีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และสามารถอธิบายต่อสังคมได้แม้จะลงโทษแตกต่างกัน
ความหมายของดุลพินิจ บัญชีมาตรฐานการลงโทษ และการรับโทษทางอาญา
ดุลพนิจ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ หมายความว่า
ิ
“การวินิจฉัยที่เห็นสมควร”
วินิจฉัย หมายความว่า การตัดสิน ชี้ขาด ลงความเห็น พิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ
เห็นสมควร หมายความว่า เห็นควร
เหมาะสม หมายความว่า พอเหมาะพอสมกัน พอสมควร สมควรแก่กรณี
บัญชีมาตรฐานการลงโทษของศาล คือ บัญชีก ากับการใช้ดุลพนิจของศาลในเรื่องต่าง ๆ
ิ
เช่น บัญชีมาตรฐานก าหนดโทษผู้กระท าผิดในทางอาญา เป็นต้น การที่มีบัญชีมาตรฐานการลงโทษของศาล
หรือ “ยี่ต๊อก” ก็เพอเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้แก่ผู้พพากษาในศาลเดียวกันให้อยู่ในกรอบของความเป็น
ื่
ิ
เอกภาพ และไม่เป็นการใช้ดุลพินิจกันตามอ าเภอใจ
การรับโทษทางอาญานั้น
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒ บัญญัติว่า “บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อ
ั
ได้กระท าการอนกฎหมายที่ใช้ในขณะกระท านั้นบัญญัติเป็นความผิดและก าหนดโทษไว้ และโทษที่จะลง
แก่ผู้กระท าความผิดนั้น ต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย
การที่ศาลใช้ดุลพนิจวินิจฉัยบุคคลซึ่งถูกฟองแล้วบังคับใช้โทษทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นการ
ิ
้
ลงโทษจ าคุก รอการลงโทษจ าคุก หรือรอการก าหนดโทษนั้น จักต้องปรากฏข้อเท็จจริงอนเป็นที่ประจักษ์
ั