Page 94 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 94
๘๑
- บทบาทส าคัญ เช่น มีหน้าที่ปฏิบัติงานหรือจัดการในเครือข่าย เกี่ยวข้องกับบุคคลอนในการ
ื่
ปฏิบัติงานไม่ว่าภายใต้การกดดัน อทธิพล การข่มขู่ หรือการให้รางวัล มีเงินหรือประโยชน์อนเพอจูงใจ ไม่ว่าจะ
ิ
ื่
ื่
ท างานคนเดียวหรือไม่ มีระดับการท างานที่รอบรู้และเข้าใจ จ าหน่ายหรือใช้วิธีอนโดยผู้มีต าแหน่งให้ผู้ต้องขัง
ื่
หาประโยชน์ให้โดยไม่บังคับ หรือ
- บทบาทรอง เช่น มีบทบาทน้อยภายใต้การสั่งการ เกี่ยวข้องเนื่องจากถูกกดดัน บังคับ ข่มขู่ มีส่วน
ร่วมเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือถูกแสวงประโยชน์ ไม่มีอิทธิพลต่อผู้ที่อยู่เหนือกว่าในเครือข่าย มีระดับการท างานที่
รอบรู้ หรือเข้าใจน้อยมาก ถ้าท าเองโดยไม่ปรากฏว่าได้ประโยชน์ทางการเงิน เช่น ร่วมซื้อโดยไม่หวังก าไร หรือเป็น
การแบ่งปันปริมาณเล็กน้อยระหว่างเพื่อนที่ไม่ได้เป็นไปในเชิงพาณิชย์
และมีการก าหนดหมวดของผลร้ายที่เกิดขึ้น โดยการก าหนดปริมาณของยาเสพติดไว้เป็น ๔ หมวด
เช่น หมวด ๑ แอมเฟตามีน ๒๐ กิโลกรัม หมวด ๒ แอมเฟตามีน ๔ กิโลกรัม หมวด ๓ แอมเฟตามีน ๗๕๐ กรัม
หมวด ๔ แอมเฟตามีน ๒๐ กรัม โดยมีการก าหนดบทลงโทษให้เป็นไปตามล าดับขั้นของบทบาทของผู้กระท า
ความผิดและปริมาณของยาเสพติดตามหมวดที่ก าหนดไว้ เช่น มียาเสพติดประเภท A ในปริมาณตามหมวด ๑
หากผู้กระท าความผิดมีบทบาทน า จะมีระวางโทษจ าคุก ๑๒ - ๑๖ ปี แต่หากมีบทบาทส าคัญ จะมีระวางโทษจ าคุก
๙ - ๑๒ ปี หรือมีบทบาทรอง จะมีระวางโทษจ าคุก ๖ - ๙ ปี ซึ่งการจัดหมวดความผิดโดยศาลได้มีการตรวจสอบ
การกระท าของผู้กระท าความผิด (บทบาท) และผลร้ายที่เกิด (ปริมาณ) ดังกล่าวข้างต้น ส่งผลท าให้การก าหนด
๑๗
ความผิดและการก าหนดบทลงโทษมีความได้สัดส่วนและเหมาะสมกับความร้ายแรงของความผิดแต่ละประเภท
ในส่วนของประเทศฝรั่งเศสกับประเทศเยอรมนีนั้น ใช้ระบบกฎหมายแบบซีวิลลอว์ (Civil Law)
ระบบการด าเนินคดีอาญาของทั้งสองประเทศดังกล่าวนั้นใช้หลักการค้นหาความจริงในคดีอาญาซึ่งด าเนินการ
ั
โดยรัฐ และถือหลักการค้นหาความจริงตามเนื้อหา กล่าวคือ เจ้าพนักงานต ารวจ พนักงานอยการ และศาล
ื่
มีบทบาทในการค้นหาความจริงในกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน และศาลใช้ระบบการไต่สวนเพอค้นหา
ความจริง การด าเนินคดียาเสพติดจะให้ความส าคัญในการค้นหาความจริงจากพยานหลักฐานเพอให้ทราบถึง
ื่
ื่
ื่
เจตนาของการครอบครองว่ามีไว้ครอบครองเพอการใด ซึ่งในการค้นหาความจริงเพอที่จะได้ทราบว่าผู้ต้องหาหรือ
ั
ื่
จ าเลยมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพอการใดนั้นเกิดจากความร่วมมือกันทั้งต ารวจ พนักงานอยการ และศาล
ิ
ที่จะต้องพจารณาจากพฤติการณ์ในการกระท าความผิดและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับตัวผู้กระท าความผิดทั้งที่เป็นผลดี
ั
และผลร้ายเพอให้ทราบถึงเจตนาอนแท้จริงของการมียาเสพติดไว้ในครอบครองของผู้ต้องหาหรือจ าเลย จึงจะ
ื่
๑๘
สามารถท าให้ก าหนดโทษที่จะลงแก่จ าเลยได้อย่างเหมาะสมกับผู้กระท าความผิดรายบุคคล
๑๗ วรรณวิภา สวาสดิ์เพชร. เพิ่งอ้าง, หน้า ๕๕ - ๕๖.
๑๘ โปรดดู คณิน เต็งสุวรรณ์. (๒๕๖๑). ปัญหาการบังคับใชบทสันนิษฐานความผิด ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ
้
พ.ศ. ๒๕๒๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๐. (วิทยานิพนธ์หลักสูตรนิติศาสตร
มหาบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์), หน้า ๗๒ - ๙๗.