Page 949 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 949
๙๓๗
การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ : กรณีศึกษาความเป็นไปได้และข้อส าคัญ
ที่จ าเลยพึงตระหนัก
(Retrial of Criminal case : A Study of Possibility and Critical Issue the
Accused Realized)
เฉลิมพร ดีพันธุ์ *
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดอ่างทอง
Chalermporn Deepun
Vice Presiding Judge of Angthong Provincial Court
บทคัดย่อ
ิ
ิ
ในกระบวนการพจารณาคดีอาญาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงมีค าพพากษาอาจเกิดความผิดพลาดขึ้น
ื่
ในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งได้ ซึ่งอาจเกิดจากการรวบรวมพยานหลักฐานเพอพิสูจน์ความผิดหรือบริสุทธิ์ของ
ผู้ต้องหา กระบวนการน าพยานหลักฐานมาสืบในชั้นพจารณาคดี หรือการที่ศาลรับฟงพยานหลักฐาน
ิ
ั
ิ
มาลงโทษจ าเลยและพยานหลักฐานนั้นได้มาจากพยานหลักฐานเท็จ เป็นต้น ซึ่งการที่ศาลพพากษาลงโทษ
จ าเลยโดยเกิดจากความผิดพลาดดังกล่าว ย่อมจะเป็นการสร้างมลทินให้กับผู้บริสุทธิ์และท าให้บุคคลนั้น
ได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ดังนั้น เพอเป็นการประกันสิทธิและเสรีภาพส าหรับบุคคลที่
ื่
ต้องโทษในคดีอาญาโดยค าพพากษาถึงที่สุดให้ได้รับความเป็นธรรม และให้สิทธิแก่บุคคลผู้ต้องรับโทษอาญา
ิ
ิ
โดยค าพพากษาถึงที่สุดในการขอรื้อฟนคดีขึ้นพจารณาใหม่ในภายหลัง จึงได้มีการรับรองหลักการรื้อฟน
ิ
ื้
ื้
คดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 โดยคดีที่จะ
ิ
ิ
ื้
มีการร้องขอให้รื้อฟนขึ้นพจารณาใหม่นั้นจะต้องเป็นคดีที่ได้มีค าพพากษาถึงที่สุดให้ต้องรับโทษอาญา
ในคดีนั้นแล้ว ซึ่งคดีอาจถึงที่สุดในศาลชั้นต้น ศาลอทธรณ์ หรือศาลฎีกาก็ได้ และยังต้องปรากฏว่า
ุ
ิ
ั
ิ
๑) พยานบุคคลซึ่งศาลอาศัยเป็นหลักในการพพากษาคดีอนถึงที่สุดนั้น ได้มีค าพพากษาอนถึงที่สุดใน
ั
ภายหลังแสดงว่าค าเบิกความของพยานนั้นเป็นเท็จหรือไม่ถูกต้องตรงกับความจริง หรือ ๒) พยานเอกสาร
ั
ิ
ิ
หรือพยานวัตถุซึ่งศาลได้อาศัยเป็นหลักในการพจารณาพพากษาคดีอนถึงที่สุดนั้น ได้มีค าพพากษาถึงที่สุด
ิ
ในภายหลังแสดงว่าเป็นพยานหลักฐานปลอมหรือเท็จหรือไม่ถูกต้องตรงกับความจริง หรือ ๓) มีพยานหลักฐาน
ใหม่อนชัดแจ้งและส าคัญแก่คดี ซึ่งถ้าได้น ามาสืบในคดีอนถึงที่สุดนั้นจะแสดงว่าบุคคลผู้ต้องรับโทษอาญา
ั
ั
โดยค าพิพากษาถึงที่สุดนั้นไม่ได้กระท าความผิด
ื้
ิ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยจะมีหลักการรื้อฟนคดีอาญาขึ้นพจารณาใหม่ในทางที่เป็นคุณ
แก่จ าเลย แต่ก็มิได้หมายความว่าจ าเลยที่ยื่นค าร้องขอรื้อฟนคดีอาญาทุกคนจะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับ
ื้
ผลร้ายจากกระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่ปรากฏว่ามีคดีใดที่ศาลอนุญาตให้
ิ
ื้
ิ
รื้อฟนคดีแล้วพพากษากลับค าพพากษาเดิมเป็นว่าจ าเลยมิได้กระท าความผิด โดยตัวอย่างคดีที่มีการขอ
ื้
รื้อฟนล่าสุดที่เป็นข่าวแพร่หลายคือ “คดีครูแพะ” ศาลฎีกาได้มีค าพพากษายกค าร้องขอรื้อฟนคดีของ
ื้
ิ
่
่
จ าเลย ด้วยเหตุผลว่าจ าเลยไมมีพยานหลักฐานใหม่อันชัดแจ้งและส าคัญแกคดีที่แสดงว่าจ าเลยไม่ได้กระท า
ความผิด ในทางกลับกันจ าเลยยังได้สร้างพยานหลักฐานเท็จเพอน ามาเบิกความต่อศาล เป็นเหตุให้จ าเลย
ื่
ิ
ั
กับพวกถูกด าเนินคดีและศาลมีค าพพากษาลงโทษฐานร่วมกันแจ้งข้อความอนเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน
* นิติศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเนติบัณฑิตไทย ส านักศึกษาอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา

