Page 112 - รายงานประจำปี 2564 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 112
ั
เขตอำนาจศาลขึ้นมา ในขณะที่กฎหมายไม่ได้ให้สิทธิ ศาลปกครอง ประกอบกบเจตนารมณ์ของพระราชบัญญต ิ
ั
โจทก์ในการโต้แย้งเขตอำนาจศาล ตามมาตรา ๑๐ ว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
วรรคหนึ่ง และศาลที่รับฟ้องเห็นพ้องด้วยกับฝ่ายโจทก์ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง ให้สิทธิคู่ความ
หากตีความว่าเป็นกรณีตามมาตรา ๑๐ วรรคสาม ฝ่ายที่ถูกฟ้องคดีในการโต้แย้งเขตอำนาจศาล แต่ไม่ได้
ก็อาจจะเป็นบรรทัดฐานได้ว่า โจทก์สามารถโต้แย้ง ให้สิทธิโจทก์ เพราะการที่โจทก์ฟ้องคดีที่ศาลนี้ก็เท่ากับ
เขตอำนาจศาลที่ตนยื่นฟ้อง โดยมีข้อสังเกตดังนี้ ๕ เป็นการยอมรับเขตอำนาจศาลของศาลยุติธรรมนี้
๑. ข้อเท็จจริงของคดีนี้ ศาลจังหวัดมหาสารคาม หากโจทก์เปลี่ยนใจภายหลัง ก็ควรที่จะถอนฟ้อง
มีความเห็นพ้องด้วยกับคำแถลงเรื่องเขตอำนาจศาล แล้วไปยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่ที่ศาลปกครอง
ของโจทก์ และมีความเห็นว่าไม่ใช่คดีที่อยู่ในอำนาจ ๒. คดีนี้หากคณะกรรมการตีความว่า
พิจารณาพิพากษาของศาลตนเอง จึงส่งคดีไปยัง เป็นกรณีศาลเห็นเองเรื่องเขตอำนาจศาล เท่ากับว่า
ศาลปกครองขอนแก่นเพื่อทำความเห็น ซึ่งหากพิจารณา ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของตัวบทกฎหมาย
เทียบเคียงแนวคำวินิจฉัยที่ผ่านมากรณีที่จำเลย ซึ่งจะต้องเป็นกรณีที่ศาลเป็นผู้เห็นเองโดยธรรมชาติ
เป็นผู้ยื่นคำร้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลในคำให้การ แต่คดีนี้มีคู่ความเป็นผู้ทำให้ศาลเห็นเอง และโดยเฉพาะ
โดยไม่ได้ทำเป็นคำร้องแยกมาต่างหาก ตามแนว อย่างยิ่งคู่ความที่ทำให้ศาลเห็นเป็นคู่ความฝ่ายโจทก์
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ฯ ไม่เคยรับคดีไว้พิจารณา ซึ่งเป็นคู่ความที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัย
เนื่องจากเป็นการไม่ชอบด้วยมาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง ชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ไม่ได้
แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจ ให้สิทธิในการโต้แย้งเรื่องเขตอำนาจศาลด้วย
หน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ในกรณีเช่นนี้ หากจะ สรุป คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
ตีความว่าถ้าศาลทำความเห็นเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ (คำสั่ง) ที่ ๑๑๒/๒๕๖๔ จึงเป็นการวางบรรทัดฐาน
ระหว่างศาลโดยอ้างว่า เข้ากรณีที่ศาลเป็นผู้เห็นเอง ในการตีความตามมาตรา ๑๐ วรรคสาม แห่ง
ตามมาตรา ๑๐ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วย พระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่
การวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ กรณีศาลเห็นเองเรื่อง
ก็จะมีผลเท่ากับว่าข้อโต้แย้งของจำเลยที่อยู่ในคำให้การ เขตอำนาจศาลว่า การเริ่มกระบวนการวินิจฉัยชี้ขาด
เป็นเพียงวิธีการชี้ช่องให้ศาล และคู่ความฝ่ายที่โต้แย้ง อำนาจหน้าที่ระหว่างศาลโดยศาลเห็นเองนั้น จะต้อง
เขตอำนาจศาล จะไม่ทำคำร้องโต้แย้งเขตอำนาจศาล เป็นกรณีที่ศาลเห็นเองโดยธรรมชาติว่า คดีอยู่ในเขต
อีกฉบับแยกออกมาต่างหากเพื่อยื่นต่อศาล และ อำนาจของอีกศาลหนึ่ง ไม่ใช่เกิดจากการชี้ช่องของ
เป็นการตีความกฎหมายกว้างขึ้นไปอีก คู่ความให้ศาลเห็นเรื่องเขตอำนาจศาล โดยเฉพาะ
สำหรับคดีนี้โจทก์กลับเป็นฝ่ายโต้แย้ง อย่างยิ่งเมื่อคู่ความนั้นไม่ใช่คู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องหรือ
เขตอำนาจศาลเอง หากโจทก์เห็นว่าไม่อยู่ในอำนาจ จำเลยที่กฎหมายให้สิทธิในการโต้แย้งเขตอำนาจศาลไว้
ศาลยุติธรรม โจทก์ก็ควรถอนฟ้องแล้วไปยื่นฟ้องที่
๕ รายงานการประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๔ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
110 ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี ๒ ๕ ๖ ๔
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล