Page 27 - บทคัดย่อเล่ม 1
P. 27

๒๓


               12. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 27/2561

               ประเด็นข้อพิพำท ๑. ผู้คัดค้ำนผิดสัญญำว่ำจ้ำงหรือไม่
                               ๒. หำกผู้คัดค้ำนผิดสัญญำ ผู้คัดค้ำนจะต้องช ำระค่ำปรับและค่ำเสียหำยต่ำง ๆ แก่ผู้เรียกร้อง
                                  หรือไม่ พียงใด


                           คู่พิพำทน ำสืบพยำนแล้วข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ เมื่อวันที่ ๑๖ มกรำคม ๒๕๕๙ ผู้เรียกร้อง
               ได้ว่ำจ้ำงผู้คัดค้ำน ให้ท ำงำนปลูกต้นไม้ปรับปรุงภูมิทัศน์ และคอยดูแลรักษำภำยหลังกำรปลูก บริเวณทำงหลวง
               ปริมำณ ๑ แห่ง วงเงินค่ำจ้ำงรวม ๙๒๒,๔๕๐ บำท (เก้ำแสนสองหมื่นสองพันสี่ร้อยห้ำสิบบำทถ้วน) โดยผู้คัดค้ำนต้อง

               เริ่มท ำงำนภำยในวันที่ ๑๗ มกรำคม ๒๕๔๙ ซึ่งตำมสัญญำแนบท้ำยได้ก ำหนดให้ผู้คัดค้ำนดูแลต้นไม้ต่อไปเป็น
               ระยะเวลำ ๑ ปี นับจำกวันที่ ๑๗ มีนำคม ๒๕๔๙ ถึงวันที่ ๑๖ มีนำคม ๒๕๕๐ โดยก ำหนดกำรจ่ำยเงินค่ำดูแลรักษำ
               ต้นไม้ดังกล่ำวแบ่งเป็นงวด ๆ รวมจ ำนวน ๑๒ งวด

               ค ำวินิจฉัยชี้ขำด


                           ประเด็นข้อพิพำทข้อที่ 1 ตำมสัญญำจ้ำงที่พิพำทกันนี้ มีข้อ ๗.ข ก ำหนดเรื่องสิทธิของผู้ว่ำจ้ำงในกำร
               บอกเลิกสัญญำไว้ว่ำ “ก ำหนดเวลำแล้วเสร็จและสิทธิของผู้ว่ำจ้ำงในกำรบอกเลิกสัญญำ” ดังนั้น ผู้รับจ้ำงต้องเริ่ม
               ท ำงำนที่รับจ้ำงภำยในวันที่ ๑๗ เดือน มกรำคม พ.ศ. ๒๕๔๙ และจะต้องท ำงำนให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ภำยในวันที่ ๑๗
               เดือน มีนำคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ถ้ำผู้รับจ้ำงมิได้ลงท ำงำนภำยในก ำหนดเวลำ หรือไม่สำมำรถท ำงำนให้แล้วเสร็จตำม
               ก ำหนดเวลำ หรือมีเหตุให้เชื่อได้ว่ำ ผู้รับจ้ำงไม่สำมำรถท ำงำนให้แล้วเสร็จภำยในก ำหนดเวลำ หรือจะแล้วเสร็จล่ำช้ำ
               เกินกว่ำก ำหนดเวลำ หรือผู้รับจ้ำงท ำผิดสัญญำข้อใดข้อหนึ่งหรือตกเป็นผู้ล้มละลำย หรือเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตำมค ำสั่ง
               ของคณะกรรมกำรตรวจกำรจ้ำง หรือผู้ควบคุมงำน หรือบริษัทที่ปรึกษำ ซึ่งได้รับมอบอ ำนำจจำกผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิ

               บอกเลิกสัญญำนี้ได้ และมีสิทธิจ้ำงผู้รับจ้ำงรำยใหม่เข้ำท ำงำนของผู้รับจ้ำงให้ลุล่วงไปด้วย ภำยในก ำหนดเวลำแล้ว
               เสร็จบริบูรณ์ตำมสัญญำนี้ ถ้ำผู้รับจ้ำงหยุดกำรท ำงำน หรือท ำแต่เพียงให้เห็นว่ำมิได้หยุดกำรท ำงำนโดยสิ้นเชิงเป็น
               เวลำติดต่อกันเกินกว่ำ ๓๐ วัน ก็ดี หรือหยุดกำรท ำงำนโดยไม่มีเหตุผลสมควร และก่อให้เกิดควำมเดือดร้อนไม่สะดวก
               หรืออำจเป็นอันตรำยแก่ประชำชนผู้ใช้เส้นทำงก็ดี หรือมีหลักฐำนแสดงว่ำผู้รับจ้ำงมีฐำนะกำรเงินไม่ดี ขำดเงินทุน
               หมุนเวียน และขำดเครื่องมือเครื่องจักร หรืออื่น ๆ ที่อำจท ำให้คำดหมำยได้ว่ำผู้รับจ้ำงไม่สำมำรถท ำงำนจ้ำงให้แล้ว
               เสร็จบริบูรณ์ได้ก็ดี หรือเวลำล่วงเลยไปเกินกว่ำครึ่งหนึ่งของก ำหนดเวลำตำมสัญญำแต่ผู้รับจ้ำงท ำงำนตำมสัญญำ
               ล่ำช้ำต่ ำกว่ำแผนงำน  โดยมีผลต่ำง ซึ่งมีหน่วยเป็นร้อยละระหว่ำงแผนงำนที่ผู้ว่ำจ้ำงเห็นชอบไว้แล้วกับผลงำนที่
               ผู้รับจ้ำงท ำได้จริงตั้งแต่สำมสิบขึ้นไปก็ดี ให้ถือว่ำผู้รับจ้ำงไม่สำมำรถท ำงำนให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ภำยในก ำหนดเวลำ

               กำรที่ผู้ว่ำจ้ำงไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญำดังกล่ำวข้ำงต้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้ำง (ผู้คัดค้ำน) พ้นจำกควำมผิดตำมสัญญำ”
                           ประเด็นข้อพิพำทข้อที่ 2 ตำมพฤติกำรณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้ จะเห็นได้ว่ำ ผู้คัดค้ำนละเลยไม่รับผิดชอบใน
               กำรดูแลสวนของผู้เรียกร้องหลังจำกผู้เรียกร้องได้มีหนังสือบอกกล่ำวแล้ว ผู้เรียกร้องควรรีบด ำเนินกำรบอกเลิกสัญญำ
               จ้ำงหรือกระท ำด้วยประกำรใด ๆ ในกำรดูแลสวนดังกล่ำว เช่น ให้เจ้ำหน้ำที่ของหน่วยงำนของผู้เรียกร้องเข้ำดูแลสวน
               เช่น ในกำรรดน้ ำต้นไม้ หรือจ้ำงบุคคลอื่นให้ดูแล แต่กำรที่ผู้เรียกร้องไม่ด ำเนินกำรใด ๆ ที่สมควรในทำงปัดเป่ำควำม
               เสียหำยที่จะเกิดขึ้น โดยใช้เวลำนำนมำกในกำรบอกเลิกสัญญำจ้ำง และไม่ด ำเนินกำรอื่น ๆ กล่ำวคือ มีกำรประชุมเพื่อ
               ลงมติบอกเลิกสัญญำหลังจำกผู้คัดค้ำนผิดสัญญำ ถึงสำมปีกว่ำ คือ ในวันที่ ๙ มีนำคม ๒๕๕๓ หลังจำกฝ่ำยผู้คัดค้ำน
               ผิดสัญญำไม่เข้ำดูแลต้นไม้ตำมสัญญำจ้ำงตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกำยน ๒๕๔๙ และได้มีกำรแจ้งบอกเลิกสัญญำจ้ำงเป็น
               หนังสือไปยังผู้คัดค้ำน ในวันที่ ๓ ธันวำคม ๒๕๕๘ นั้นเห็นได้ว่ำ กำรที่ผู้เรียกร้องละเลยไม่รีบด ำเนินกำรบอกเลิกสัญญำ

               ภำยในเวลำอันสมควรแต่ปล่อยปละละเลยเป็นเวลำ เก้ำปีกว่ำ จำกวันที่ผิดสัญญำจ้ำง โดยผู้เรียกร้องจึงมีส่วนผิดอยู่ด้วย
               ทั้งนี้เพรำะกำรที่ผู้เรียกร้องไม่บอกเลิกสัญญำจ้ำงต่อผู้คัดค้ำนที่ผิดสัญญำจนค่ำปรับมีจ ำนวนสูงมำกเกินสมควร คือ
               สูงเกินกว่ำควำมเสียหำยที่แท้จริง กล่ำวคือ ผู้เรียกร้องขอให้คณะอนุญำโตตุลำกำรชี้ขำดให้ค่ำปรับจ ำนวน
               ๑,๗๖๓,๙๓๖ บำท (หนึ่งล้ำนเจ็ดแสนหกหมื่นสำมพันเก้ำร้อยสำมสิบหกบำทถ้วน) ในขณะที่ค่ำจ้ำงตำมสัญญำจ้ำงนั้น
               เป็นจ ำนวนเพียง ๙๒๒,๔๕๐ บำท (เก้ำแสนสองหมื่นสองพันสี่ร้อยห้ำสิบบำทถ้วน) จึงเห็นได้ว่ำค่ำปรับนั้นสูงกว่ำมูลค่ำ
               ตำมสัญญำประมำณ ๙๑ เปอร์เซ็นต์ นอกจำกนั้นผู้เรียกร้องมีส่วนก่อให้เกิดควำมเสียหำยด้วย เพรำะบอกเลิกสัญญำ
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32