Page 64 - บทคัดย่อเล่ม 1
P. 64
๖๐
29. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 17/2560
ประเด็นข้อพิพำท ผู้คัดค้ำนจะต้องชดใช้ค่ำเสียหำยหรือชดใช้เงินให้ผู้เรียกร้องเป็นจ ำนวนเท่ำใด
คู่พิพำทน ำสืบพยำนแล้วข้อเท็จจริงเบื่องต้นรับฟังได้ว่ำ เมื่อเดือนมิถุนำยน ๒๕๕๔ ผู้เรียกร้องได้
ลงนำมในสัญญำจะซื้อจะขำยห้องชุดที่อยู่ในโครงกำรอำคำรชุดที่ผู้คัดค้ำนเป็นเจ้ำของ โดยผู้คัดค้ำนตกลงขำยห้องชุด
ตั้งอยู่ที่ชั้น ๒ ของอำคำร ให้แก่ผู้เรียกร้องในรำคำ ๕,๙๒๕,๐๐๐ บำท โดยผู้เรียกร้องได้ช ำระเงินค่ำห้องชุดจ ำนวน
๒,๓๐๐,๓๘๔.๑๐ บำท ให้กับบริษัท อ.ซึ่งเป็นผู้ขำยห้องชุดเดิมให้กับผู้เรียกร้อง ผู้เรียกร้องละผู้คัดค้ำนตกลงกันว่ำจะ
จ่ำยเงินค่ำห้องชุดอีกจ ำนวน 3,624,615.90 บำท โดยแบ่งช ำระเป็นสี่งวดๆละเท่ำๆ กัน และในเดือนมีนำคม 2557
ผู้เรียกร้องและผู้คัดค้ำนท ำสัญญำเพิ่มเติมว่ำผู้ซื้อและผู้ขำยประสงค์จะด ำเนินโครงกำรให้แล้วเสร็จภำยในวันที่ 31
กรกฎำคม 2557 แต่ปรำกฏว่ำเมื่อผู้คัดค้ำนได้ก่อสร้ำงอำคำรเสร็จสิ้นแล้วกลับแจ้งแก่ผู้เรียกร้องทรำบว่ำผู้คัดค้ำน
ไม่ประสงค์ที่จะจดทะเบียนอำคำรชุดส ำหรับโครงกำรดังกล่ำวอีกต่อไป โดยจะน ำที่ดินและอำคำรออกให้เช่ำ โดยผู้เช่ำ
มีสิทธิกำรเช่ำเป็นระยะเวลำ 30 ปี และไม่ด ำเนินกำรโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพิพำทให้แก่ผู้เรียกร้องตำมสัญญำ ท ำให้
ผู้เรียกร้องได้รับควำมเสียหำย ผู้เรียกร้องจึงบอกเลิกสัญญำ
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ำผู้คัดค้ำนได้กระท ำผิดสัญญำจะซื้อจะขำยอำคำรชุดพิพำทคณะ
อนุญำโตตุลำกำรจึงจะวินิจฉัยตำมประเด็นพิพำทว่ำผู้คัดค้ำนจะต้องรับผิดต่อผู้เรียกร้องโดยชดใช้เงินเป็นจ ำนวนเท่ำใด
ดังนี้
ข้อเท็จจริงตำมค ำขอของผู้เรียกร้องและข้อต่อสู้ของผู้คัดค้ำนรับฟังเป็นอันยุติว่ำ ได้มีกำรท ำสัญญำ
จะซื้อจะขำยระหว่ำงผู้เรียกร้องและผู้คัดค้ำน ซึ่งผู้เรียกร้องได้บอกเลิกสัญญำแล้ว เพรำะกำรที่ผู้คัดค้ำนผิดสัญญำ
คู่สัญญำแต่ละฝ่ำยจึงต้องให้อีกฝ่ำยหนึ่งกลับคืนสู่ฐำนะดังที่เป็นอยู่เดิม ผู้คัดค้ำนจึงมีหน้ำที่ต้องคืนเงินที่ได้รับให้แก่
ผู้เรียกร้องและต้องรับผิดช ำระดอกเบี้ยให้แก่ผู้เรียกร้อง เนื่องจำกผู้เรียกร้องได้บอกเลิกสัญญำแล้ว ผู้เรียกร้องจึงมีสิทธิ
คิดดอกเบี้ยได้ และมีสิทธิเรียกค่ำเสียหำยต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นจำกกำรผิดสัญญำตำมสัญญำจะซื้อจะขำยที่ได้ตกลงกันไว้
ในประเด็นนี้ในทำงพิจำรณำแม้ปรำกฏว่ำมีกำรท ำสัญญำโอนสิทธิและหน้ำที่และทรัพย์สิน ของผู้โอนซึ่งเป็นเจ้ำของ
โครงกำรไปยังผู้คัดค้ำน ผู้รับโอน แต่ในสัญญำดังกล่ำว ฉบับลงวันที่ เดือนเมษำยน ๒๕๕๓ มีข้อควำมระบุไว้ใน ข้อ ๓.๘
ว่ำ “เจ้ำของโครงกำร จะส่งมอบเงินจองและ/หรือเงินท ำสัญญำใด ๆ ที่ ลูกค้ำได้ท ำไว้กับเจ้ำของโครงกำรหรือตัวแทน
ในกำรซื้อหรือเช่ำห้องชุดในโครงกำร ในระยะเวลำ ๖ เดือน ก่อนหน้ำวันท ำสัญญำนี้ โดยมอบให้แก่ผู้รับโอนในวันท ำ
สัญญำนี้” และข้อ ๓.๑๒ ระบุว่ำ “เจ้ำของโครงกำรเป็นผู้รับภำระในหนี้และหน้ำที่ใด ๆ ที่ผู้รับโอนไม่ได้ตกลงรับเอำ
อย่ำงชัดแจ้งในสัญญำนี้แต่ผู้เดียว”จึงเห็นได้ว่ำ เงินจ ำนวน ๒,๓๐๐,๓๘๔.๑๐ บำท ที่ผู้เรียกร้องได้ช ำระให้แก่ผู้โอน
เป็นเงินที่ได้ส่งมอบก่อนหน้ำระยะเวลำ ๖ เดือนก่อนที่ผู้คัดค้ำนที่เป็นผู้รับโอนสัญญำนั้น ผู้โอนจึงไม่ต้องส่งมอบเงิน
จ ำนวนดังกล่ำวให้แก่ผู้คัดค้ำน และตำมสัญญำโอนดังกล่ำวนั้นก็ระบุว่ำผู้รับโอนไม่ต้องรับรับภำระในหนี้และหน้ำที่ใด ๆ
ที่ผู้รับโอนไม่ได้ตกลงรับเอำอย่ำงชัดแจ้งในสัญญำนี้แต่ผู้เดียว ดังนั้นในส่วนเงินที่ผู้เรียกร้องได้จ่ำยให้แก่ผู้โอนจึงเป็น
ส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้คัดค้ำน แต่อยู่ในควำมรับผิดชอบของผู้โอน ซึ่งเป็นเจ้ำของโครงกำรเดิม และเป็นผู้โอนสิทธิให้แก่
ผู้คัดค้ำน
อย่ำงไรก็ตำม แม้ข้อกล่ำวอ้ำงของผู้เรียกร้องที่ว่ำสัญญำโอนสิทธิและหน้ำที่และทรัพย์สินดังกล่ำว
ไม่ผูกพันผู้เรียกร้องเพรำะไม่ได้มีกำรบอกกล่ำวให้ผู้เรียกร้องได้รับรู้หรือผู้เรียกร้องไม่ได้ให้ควำมยินยอมกับกำรโอนสิทธิ
และหน้ำที่และทรัพย์สินนั้นเป็นสิ่งที่รับฟังได้ แต่เนื่องจำกสัญญำจะซื้อจะขำยห้องชุดระหว่ำงผู้เรียกร้องกับผู้คัดค้ำนมี
ข้อควำมที่ระบุว่ำผู้คัดค้ำนไม่ต้องรับผิดชอบในเงินจ ำนวนที่ผู้เรียกร้องจ่ำยไปให้กับผู้โอนสิทธิ แต่อย่ำงใด กล่ำวคือ
สัญญำจะซื้อจะขำยห้องชุดในเอกสำรห้องชุด ที่ฝ่ำยผู้คัดค้ำนอ้ำง ระบุไว้ตรงกันว่ำ เงินจ ำนวน ๒,๓๐๐,๓๘๔.๑๐ บำท
ไม่เป็นควำมรับผิดชอบของผู้คัดค้ำน และผู้เรียกร้องตกลงจะไม่ให้ผู้คัดค้ำนต้องรับผิดชอบต่อต้นเงินจ ำนวนดังกล่ำวที่
ได้ช ำระให้แก่ผู้โอนสิทธิในทุกกรณี และในกำรสืบพยำนผู้เรียกร้องก็ยอมรับว่ำไม่มีกำรแก้ไขสัญญำที่ระบุไว้เช่นนั้น
และทำงฝ่ำยผู้คัดค้ำนได้น ำสืบว่ำไม่ได้รับลูกค้ำเดิมของผู้โอนสิทธิทุกรำย แต่จะรับเฉพำะรำยที่มีเงินเหลือมำกพอที่จะ
คุ้มกับกำรลงทุนก่อสร้ำงห้องเท่ำนั้น กำรสืบพยำนของฝ่ำยผู้คัดค้ำนในส่วนนี้จึงมีน้ ำหนักมำกกว่ำ ด้วยเหตุดังกล่ำว