Page 29 - annual 2561
P. 29

21


























               ตามกฎหมาย หรือจากกฎ ค�าสั่งทางปกครองหรือค�าสั่ง แต่อยู่ในอ�านาจศาลยุติธรรมซึ่งเป็นศาลที่มีอ�านาจ
               อื่น หรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายก�าหนด พิจารณาพิพากษาคดีทั่วไปที่ไม่อยู่ในอ�านาจศาลอื่น

               ให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร”   ๓.  ความรับผิดทางปกครอง
               จะเห็นได้ว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
               จัดตั้งศาลปกครองที่ก�าหนดให้มีการจัดตั้งศาลปกครอง        (ก)  ความรับผิดทางวินัยของข้าราชการ

               ขึ้นเป็นพิเศษก็เนื่องจากว่ากฎหมายประสงค์ที่จะ            ค�าสั่งของผู้บังคับบัญชาที่จะลงโทษทาง
               คุ้มครองเอกชนที่ได้รับความเสียหายจากการใช้อ�านาจ วินัยแก่ข้าราชการกรณีกระท�าผิดกฎหมาย/ระเบียบ

               ของรัฐแล้วก่อให้เกิดความเสียหายหรือไม่ใช้อ�านาจรัฐ ว่าด้วยวินัยการเงินและการคลังของรัฐมีสถานะเป็น
               ตามหน้าที่ที่กฎหมายก�าหนดไว้เนื่องจากเอกชนอยู่ใน ค�าสั่งทางปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่ง
               ฐานะที่ไม่เท่าเทียมกับรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามมาตรา  พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี

               ๙ วรรคหนึ่ง (๓) นี้เป็นเรื่องความรับผิดของรัฐที่มีต่อ ปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ อยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของ
               เอกชน กฎหมายประสงค์จะให้ศาลปกครองตรวจสอบ ศาลปกครองชั้นต้น (เทียบเคียงค�าวินิจฉัยที่ ๒๕/๒๕๕๐)

               และเยียวยาความเสียหายอันเกิดจากการใช้อ�านาจทาง           ยกเว้นความผิดทางวินัยทหารอยู่ในอ�านาจ
               ปกครองหรือจากการละเลยต่อหน้าที่ในทางปกครอง แต่  ศาลยุติธรรม เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นอ�านาจศาลปกครอง
               ในกรณีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานทางปกครองกับ  ตามมาตรา ๙ วรรคสอง (๑) (เทียบเคียงค�าวินิจฉัยที่

               เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานทางปกครองมีฐานะที่เหนือ  ๒๓/๒๕๕๗)
               กว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่แล้ว หน่วยงานทางปกครองย่อม

               มีอ�านาจในการออกค�าสั่งและบังคับการทางปกครอง             (ข)  ความรับผิดทางวินัยทางงบประมาณ
               เอาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐให้เป็นไปตามค�าสั่งของตนได้  และการคลัง
               เองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง            ค�าสั่งลงโทษปรับทางปกครอง  ซึ่งเป็น

               พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยไม่จ�าเป็นต้องอาศัยอ�านาจศาล ดังนั้น  อ�านาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่ใช้ลงโทษ
               การที่หน่วยงานทางปกครองประสงค์ที่จะลดตัวเองลง เจ้าหน้าที่ของหน่วยตรวจรับกรณีมีการกระท�าผิด

               มาใช้อ�านาจศาลในการบังคับให้เป็นไปตามค�าสั่งทาง กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ อยู่ในอ�านาจ
               ปกครองของตน จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้สิทธิเสมือนหนึ่งตน พิจารณาพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ตามมาตรา
               เป็นเอกชนฟ้องบังคับเอกชนด้วยกัน ไม่ใช่เป็นเรื่องความ ๒๔๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

               รับผิดของรัฐที่มีต่อเอกชน แต่เป็นเรื่องความรับผิดของ พ.ศ. ๒๕๖๐ และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการตรวจเงิน
               เอกชนที่มีต่อรัฐ กรณีจึงไม่อยู่ในอ�านาจของศาลปกครอง  แผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๐๓
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34