Page 44 - annual 2561
P. 44
36
Service และหลัก Public Power มาเขียนไว้ใน
รัฐธรรมนูญ และต้องพิจารณาประกอบกับมาตรา ๙
แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา
คดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ก็เกิดความชัดเจนขึ้นว่าอะไร
ที่อยู่ในเขตอ�านาจของศาลปกครองแล้ว ศาลยุติธรรม
ก็ไม่มีเขตอ�านาจ ซึ่งศาลปกครองมีอ�านาจเพียง ๘ เรื่อง
แนวทางการวินิจฉัยกรณีค�าพิพากษาที่ถึงที่สุด
ระหว่างศาลขัดแย้งกันนั้น มีข้อสังเกตเกี่ยวกับค�าวินิจฉัย
(ค�าสั่ง) ที่ ๑๕๙/๒๕๖๐ คณะกรรมการได้วางหลักถูกต้อง
แล้ว ค�าพิพากษาที่ขัดแย้งกันตามมาตรา ๑๔ นั้น ต้องเป็น
ค�าบังคับ ส่วนในเรื่องการฟังข้อเท็จจริงแต่ละศาลมีความ
เป็นอิสระต่อกัน ในขณะที่กฎหมายของต่างประเทศนั้น
เรื่องวินัยไม่ต้องรอค�าพิพากษาในคดีอาญา เว้นแต่ศาล
พิพากษาให้ลงโทษทางอาญา กฎหมายจะบังคับเลยว่า
เป็นการกระท�าผิดวินัย
ค�าวินิจฉัยที่ ๒/๒๕๕๐ ที่บอกว่าฟ้องเพิกถอน
ค�าสั่งไล่เบี้ยของผู้บังคับบัญชา ต้องไปดูว่าละเมิดนั้นเป็น
ละเมิดทางปกครองหรือละเมิดทางแพ่ง ถ้าเป็นละเมิด
ทางแพ่ง การฟ้องเพิกถอนค�าสั่งไล่เบี้ยต้องฟ้องที่
ศาลยุติธรรม แต่ถ้าเป็นละเมิดทางปกครอง การฟ้อง
เพิกถอนค�าสั่งไล่เบี้ยต้องฟ้องที่ศาลปกครอง หลักใน
ค�าวินิจฉัยนี้ในทางวิชาการไม่น่าจะถูกต้อง เพราะว่า
ค�าสั่งไล่เบี้ยตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติความ
รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นค�าสั่ง
ทางปกครอง ฐานมาจากละเมิดทางปกครองหรือละเมิด
ทางแพ่งไม่น่าจะใช่ แต่ว่าข้อพิพาทหลักมันเป็นข้อพิพาท
เกี่ยวกับการออกค�าสั่งไล่เบี้ย และเป็นข้อพิพาทที่น่าจะ
อยู่ในอ�านาจของศาลปกครอง การไปย้อนดูตั้งแต่ต้น
ดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้อง ผมเข้าใจว่าได้อิทธิพลมาจาก ๑๒๑ เมื่อมีการฟ้องคดีอาญา ก็อาจฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่อง
เรื่องกรรมสิทธิ์ ส่วนค�าวินิจฉัยเรื่องซุ้มเฉลิมพระเกียรติ กับคดีอาญาฟ้องสัญญา ฟ้องละเมิดเข้ามาด้วย หากเป็น
หลักกฎหมายถูกต้อง เพียงแต่วินิจฉัยเรื่องสัญญาว่าเป็น สัญญาทางปกครอง หรือละเมิดทางปกครองก็ต้องฟ้องที่
สัญญาทางแพ่งหรือสัญญาทางปกครองนั้นเห็นต่างกัน ศาลปกครอง จะไปคิดว่ากฎหมายพัสดุมีโทษทางอาญา
นอกจากนี้ คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาและ แล้ว คดีสัญญาซึ่งเกิดจากกฎหมายพัสดุที่เป็นสัญญาทาง
กฎหมายพัสดุก�าหนดโทษอาญาตามมาตรา ๑๒๐ มาตรา ปกครอง ต้องอยู่ในอ�านาจของศาลยุติธรรมไม่ถูกต้อง