Page 71 - annual 2561
P. 71

ยุคแรกของ


                                      คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล






                      โดย                     วันนี้ ขอน�าทุกท่านมารู้จักกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการวินิจฉัย
            ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.จิรนิติ หะวานนท์
                ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา  ชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาล ซึ่งท่านได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาให้
            กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม
                                       มาด�ารงต�าแหน่งนี้เป็นวาระที่ ๒ ในขณะที่ท่านด�ารงต�าแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะใน
                                       ศาลฎีกา ปัจจุบันท่านด�ารงต�าแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ท่านนั้นนอกจากจะ
                                       เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในปัจจุบันซึ่งมีบทบาทในการวางหลักกฎหมายปกครองใน

                                       ค�าวินิจฉัยชี้ขาด ในอดีตท่านยังเป็นผู้ที่มีบทบาทส�าคัญในการก่อร่างสร้างตัวส�านักงาน
                                       คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
                                       และท�าหน้าที่เป็นเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาล

                                       คนแรกที่วางระบบและแนวทางการท�างานของฝ่ายเลขานุการฯ ซึ่งใช้ด�าเนินการมา
                                       จนถึงปัจจุบัน ขอเชิญพบกับศาสตราจารย์พิเศษ ดร.จิรนิติ หะวานนท์

                                                   ส�านักงานเลขานุการฯ : ขออนุญาตเรียนถามท่านเกี่ยวกับประวัติศาสตร์

                                       และการด�าเนินงานของคณะกรรมการในยุคแรกว่าที่มาของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด
                                       อ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลเป็นมาอย่างไร

                                                   ดร.จิรนิติ : ก�าเนิดของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่าง

                                       ศาล มาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ที่แบ่งองค์กร
                                       ผู้ใช้อ�านาจตุลาการจากเดิมให้ศาลยุติธรรมมีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง กับ

                                       ศาลทหารซึ่งมีอ�านาจพิจารณาคดีอาญาทหาร โดยให้ศาลปกครองซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่
                                       มีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ
                                       รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือ

                                       ในก�ากับดูแลของรัฐบาลกับเอกชน หรือระหว่างกันเอง อันเนื่องมาจากการกระท�า
                                       หรือการละเว้นการกระท�าที่หน่วยงานนั้นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือต้องรับผิดชอบ

                                       ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตามที่มีกฎหมายบัญญัติ ดังนั้น เมื่อมีการจัดตั้ง
                                       ศาลปกครองเป็นศาลคู่ขนานขึ้นมา หรือที่นักวิชาการเรียกว่า “ระบบศาลคู่” ผู้ร่าง
                                       รัฐธรรมนูญสมัยนั้นจึงคิดว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทับซ้อนกันหรือความไม่ชัดเจน

                                       ระหว่างอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรมกับศาลปกครองในทางเนื้อหา
                                       จึงบัญญัติให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบมาจากศาลยุติธรรม





                                                                                                          63
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76