Page 73 - annual 2561
P. 73

65




               คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างไปด้วย          ส�านักงานเลขานุการฯ : อยากเรียนถามว่า
               เพื่อความสะดวกในการนัดประชุมหรือจะด�าเนินการใด ๆ  คดีแรกของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่

               ตามอ�านาจหน้าที่ของคณะกรรมการ                   ระหว่างศาล เป็นเรื่องอะไร

                      เมื่อพระราชบัญญัตินี้ประกาศใช้แล้ว ก็ยังคงเป็น       ดร.จิรนิติ : ค�าวินิจฉัยที่ ๑/๒๕๔๔ เป็น
               เพียงแค่กฎหมาย ไม่มีคณะกรรมการเกิดขึ้น เนื่องจากยัง  เรื่องที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลต�าบล

               ไม่มีการจัดตั้งศาลปกครอง กระทั่งวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๔   ตันหยงยื่นค�าร้องต่อศาลจังหวัดปัตตานี ขอให้ศาลไต่สวน
               มีการเปิดท�าการศาลปกครองขึ้น องค์ประกอบของ      และตรวจสอบการนับคะแนน หากฟังว่ามีการกระท�า
               คณะกรรมการโดยต�าแหน่งตามรัฐธรรมนูญจึงครบถ้วน    ที่มิชอบเพื่อประโยชน์ของผู้สมัครคนหนึ่งคนใด ขอให้

               โดยมีการประชุมครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม   ศาลสั่งว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้นเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งโดย
               ๒๕๔๔                                            มิชอบ และหากฟังไม่ได้ว่ามีการกระท�าโดยมิชอบ ขอให้
                                                               ศาลสั่งว่าไม่มีผู้สมัครรายใดได้รับการเลือกตั้ง ศาลจังหวัด
                           ส�านักงานเลขานุการฯ  :  ท่านเป็น

               เลขานุการคนแรกของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจ  ปัตตานีเห็นว่า ค�าสั่งการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเป็น
                                                               ค�าสั่งทางปกครอง คดีไม่อยู่ในอ�านาจของศาลยุติธรรม
               หน้าที่ระหว่างศาล ในสมัยแรกมีปัญหาหรือความยุ่งยาก  จึงไม่รับค�าร้องไว้พิจารณา ต่อมา โจทก์ได้น�าคดีเรื่อง

               อะไรไหม เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ในระบบศาลและระบบ  เดียวกันนี้ไปฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อคัดค้านการ
               กฎหมายของไทย
                                                               เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลต�าบลตันหยง ศาลปกครอง
                           ดร.จิรนิติ : ผมเป็นเลขานุการศาลฎีกา จึง  กลางเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลยุติธรรม จึงจะ

               เป็นเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดโดยต�าแหน่ง   ไม่รับฟ้อง แต่ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจ
               มีท่านผู้พิพากษาศาลชั้นต้นที่ท�างานในศาลฎีกาช่วยเป็น  หน้าที่ระหว่างศาล ศาลที่สองจะไม่รับฟ้องไม่ได้ ต้อง
               ทีมท�างาน ๒ ท่าน ช่วยกันวางระบบ มีเจ้าหน้าที่มาท�า  ส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยฯ ทางศาลปกครองกลาง

               หน้าที่ในงานทางธุรการ ตั้งขึ้นเป็นส�านักงานเลขานุการ  ส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการวินิจฉัยว่าคดีนี้อยู่ในอ�านาจ
               คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาล   ศาลใด ซึ่งในขณะนั้น การเลือกตั้งสภาเทศบาลยังใช้

               ไม่มีความยุ่งยากอะไรในงานทางธุรการ เนื่องจากมี  กฎหมายเดิมอยู่ คือ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิก
               เรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการไม่มาก ใน   สภาเทศบาล พ.ศ. ๒๔๘๒ คณะกรรมการก�าหนดประเด็น

               การประชุมครั้งแรก ๆ ของปี ๒๕๔๔ จะเป็นเรื่องการ ในการพิจารณาว่า “ศาลชั้นต้นที่มีเขตอ�านาจในการ
               ร่างระเบียบคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ พิจารณาค�าร้องคัดค้านการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ

               ระหว่างศาล ว่าด้วยวิธีการรับสมัครและการคัดเลือก การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. ๒๔๘๒ มาตรา ๕๘
               กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่างพระราชกฤษฎีกาก�าหนดให้ วรรคหนึ่ง หมายความถึง ศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง”
               คณะกรรมการและเลขานุการได้รับประโยชน์ตอบแทน  คณะกรรมการในขณะนั้นวินิจฉัยชี้ขาดด้วยเสียงข้างมาก

               พ.ศ. ... ร่างข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจ (๕ ต่อ ๒) ว่ากรณีตามค�าร้องเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับ
               หน้าที่ระหว่างศาล ว่าด้วยการเสนอเรื่อง การพิจารณา  หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระท�า

               และการวินิจฉัย พ.ศ. ... คณะกรรมการได้เริ่มพิจารณา  การโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาล
               รับเรื่องครั้งแรกเมื่อการประชุมครั้งที่  ๗/๒๕๔๔   ปกครองฯ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) อย่างไรก็ตาม
               วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ โดยในปี ๒๕๔๔ มีเรื่อง มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิก

               เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจ�านวน ๑๖ เรื่อง   สภาเทศบาล พ.ศ. ๒๔๘๒ บัญญัติว่า “เมื่อศาลได้รับค�าร้อง
               คณะกรรมการวินิจฉัยเสร็จไป ๗ เรื่อง              คัดค้านแล้ว ให้ด�าเนินการพิจารณาตามประมวลกฎหมาย
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78