Page 74 - annual 2561
P. 74

66




            วิธีพิจารณาความแพ่งโดยเร็ว โดยให้เจ้าหน้าที่ที่ด�าเนิน ไม่ได้ เพราะท่านมีดุลพินิจอิสระในการท�าความเห็น
            การเลือกตั้งหรือผู้ได้รับเลือกตั้งที่มีส่วนได้เสียมีโอกาส เกี่ยวกับอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาล แต่ในการเห็นต่าง

            ต่อสู้การคัดค้านนั้น...” เป็นการบัญญัติให้ศาลที่พิจารณา จากแนวค�าวินิจฉัยของคณะกรรมการ ก็ควรมีเหตุผล
            ค�าร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลต้อง ในการหักล้างเหตุผลของค�าวินิจฉัยเดิมเพียงพอที่จะให้
            ด�าเนินการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา คณะกรรมการกลับแนวค�าวินิจฉัยเดิมได้ ดังเช่นเรื่อง

            ความแพ่ง อันเป็นวิธีพิจารณาคดีในศาลยุติธรรม จึง การคัดค้านการเลือกตั้งตามค�าวินิจฉัยที่ ๑/๒๕๔๔
            วินิจฉัยชี้ขาดว่าคดีนั้นเป็นคดีที่อยู่ในอ�านาจศาลยุติธรรม   ที่เอ่ยถึง  ซึ่งเป็นค�าวินิจฉัยแรกของคณะกรรมการ

            แค่เรื่องแรกก็ถกเถียงแสดงเหตุผลกันมากมายแล้วว่าคดีนี้  หลังจากที่ออกค�าวินิจฉัยนี้ไป ก็ยังมีการยื่นค�าร้องมาสู่
            ควรอยู่ในอ�านาจศาลใด เพราะตอนนั้นมีคดีท�านองนี้  คณะกรรมการหลายเรื่อง จะเห็นได้ว่าค�าวินิจฉัยปี ๒๕๔๔

            ยื่นเข้ามาหลายเรื่อง และค�าวินิจฉัยก็ไม่ได้เป็นเอกฉันท์  มีแต่เรื่องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น ทั้งนั้น

                        ส�านักงานเลขานุการฯ : ในช่วงแรกของ  ในปี ๒๕๔๕ ก็มีการเสนอเข้ามาอีก จนคณะกรรมการ
            บรรยากาศในการประชุมเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่  ต้องใช้ข้อบังคับของคณะกรรมการฯ ข้อ ๒๘ ไม่รับเรื่อง

            ระหว่างศาลเป็นอย่างไรบ้าง                       ไว้พิจารณา เนื่องจากเป็นการวินิจฉัยซ�้าในเรื่องเดิม
                                                            และไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงผลการวินิจฉัยนั้นได้ ตาม
                        ดร.จิรนิติ : คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด  ค�าสั่งที่ ๑๕/๒๕๔๕ ในช่วงแรก ๆ ของการท�างานของ
            อ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลเป็นคณะกรรมการที่ก�าหนด  คณะกรรมการวินิจฉัย ดังที่ได้เรียนว่าเป็นเรื่องใหม่และ

            โดยรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย แต่เป็น  การออกค�าวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นความส�าคัญต่อ
            คณะกรรมการที่มีความส�าคัญในการวางหลักกฎหมาย     การพัฒนาหลักกฎหมาย จึงใช้เวลาในการพิจารณาและ

            ปกครองให้ชัดเจนขึ้น กรรมการแต่ละท่านตระหนักดีว่า  การอภิปรายค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีมุมมองทั้งฝั่งของ
            ค�าวินิจฉัยของท่านเป็นการแบ่งแยกกฎหมายปกครอง    นักกฎหมายปกครอง และนักกฎหมายเอกชน ซึ่งอาจมีนิติ

            ออกจากกฎหมายเอกชนให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้ประชาชน    วิธีในการคิดเรื่องเดียวกันแตกต่างกัน ก็เป็นเรื่องที่ช่วยกัน
            หรือนักกฎหมายสับสนในเรื่องของเขตอ�านาจศาลเหนือ  คิด แต่ไม่มีการตั้งธงว่าคดีนี้จะต้องอยู่ในอ�านาจของศาลใด

            คดีนั้น เมื่อบทบาทหน้าที่มีความส�าคัญเช่นนี้ การจะ  เป็นไปตามความคิดอิสระของกรรมการแต่ละท่าน
            วินิจฉัยหรือชี้ขาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ส�าคัญ  บางครั้งกรรมการที่มาจากศาลเดียวกันยังมีความเห็น
            มาก แม้รัฐธรรมนูญจะไม่บัญญัติว่า ค�าวินิจฉัยของ   ไม่เหมือนกัน ท่านก็ยกมือกันโดยอิสระ เพราะแต่ละท่าน

            คณะกรรมการมีผลผูกพันทุกองค์กรเหมือนค�าวินิจฉัย  เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กันแล้ว เป็นการอภิปรายโดยเหตุ
            ของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในทางปฏิบัติค�าวินิจฉัยของ  และผล มีแต่เจตนาที่จะวางหลักกฎหมายให้ถูกต้องตาม

            คณะกรรมการเป็นแนวทางของศาลและนักกฎหมาย          เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
            ทั้งหลายในการที่จะน�าคดีมาฟ้องต่อศาล คือ มีผล

            ผูกพันโดยปริยาย ซึ่งโดยธรรมเนียมปฏิบัติขององค์กร            ส�านักงานเลขานุการฯ : เมื่อสักครู่ท่าน
            ตุลาการจะเคารพแนวค�าวินิจฉัยขององค์กรที่มีหน้าที่ตาม  กรุณาพูดถึงหน้าที่ส�าคัญของคณะกรรมการวินิจฉัย

            กฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด  ชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลในการวางหลักกฎหมาย
            อ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลมีองค์ประกอบ คือ ประมุขของ   ปกครอง อยากขอให้ท่านเล่าให้ฟังบางเรื่องที่เห็นเด่นชัด
            ทั้งสามศาล ได้แก่ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และ     เกี่ยวกับการวางหลักกฎหมายดังกล่าว

            ศาลทหาร แต่ก็มิได้หมายความว่าศาลชั้นต้นซึ่งเป็น             ดร.จิรนิติ : ยกตัวอย่างเรื่อง “สัญญาทาง
            ผู้ท�าความเห็นจะเห็นต่างจากค�าวินิจฉัยของคณะกรรมการ  ปกครอง” จะเห็นได้ว่า ข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญานั้น
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79