Page 21 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 21
ึ
มาตรา 3 ประกอบมาตรา 9 วรรคหน่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติจัดต้ง
ั
ี
ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คดีน้จึงอยู่ใน
�
เขตอานาจของศาลปกครอง
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๒๑/๒๕๔๖
ี
ี
�
ี
�
สัญญาท่หน่วยงานของรัฐว่าจ้างเอกชนก่อสร้างหลักเทียบเรือรบ เป็น
ี
ื
ี
สัญญาท่มีคู่สัญญาฝ่ายหน่งเป็นหน่วยงานของรัฐ และเพ่อจัดให้ม ี
ึ
�
ึ
�
ื
ื
เคร่องมือสาคัญในการดาเนินบริการสาธารณะอย่างหน่งเพ่อจัดให้ม ี
ุ
�
ุ
่
ื
อาวธ ยทโธปกรณ์และอปกรณ์อ่น ๆ ทจาเป็น หลกเทยบเรือเป็น
ี
ั
ี
ุ
ั
ื
ั
เครองมอสาคญในการดาเนนบรการสาธารณะดงกล่าวให้บรรลผล จง
ุ
�
่
ิ
ื
�
ึ
ิ
เป็นสัญญาทางปกครอง ดังน้น การท่เอกชนฟ้องขอให้หน่วยงาน
ั
ี
ของรัฐลดและคืนค่าปรับตามสัญญาดังกล่าว จึงเป็นข้อพิพาทอันเกิด
จากสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา 9 วรรคหน่ง (4) แห่งพระราชบัญญัต ิ
ึ
ั
�
จัดต้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 อยู่ในอานาจ
พิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
�
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๑๒/๒๕๔๘
ี
�
ี
ี
ื
ี
ี
คดีท่เอกชนผู้เป็นโจทก์ย่นฟ้องจาเลยท่ 1 ถึงท่ 3 ซ่งเป็นเอกชนด้วย
ึ
ี
�
ี
กันเองและหน่วยงานทางปกครองจาเลยร่วม ว่า จาเลยท่ 1 เป็นผู้รับ
�
�
�
�
ี
จ้างก่อสร้างอาคารท่ทาการและบ้านพักสถานีตารวจดับเพลิงธนบุรี โดย
้
�
จาเลยร่วมเป็นผู้ว่าจ้างและโจทก์เป็นผู้คาประกันการปฏิบัติตามสัญญา
�
�
�
ี
ื
ของจาเลยท่ 1 ต่อจาเลยร่วม เพ่อประกันความเสียหายของโจทก์ จาเลย
�
้
ท่ 2 ถึงท่ 4 ทาสัญญาเป็นผู้คาประกันจาเลยท่ 1 ต่อโจทก์ ต่อมาโจทก์
�
�
ี
ี
ี
�
�
ี
ื
ต้องชาระเงินให้แก่จาเลยร่วมเน่องจากจาเลยท่ 2 ผิดสัญญา จึงใช้สิทธ ิ
�
�
ไล่เบ้ย ขอให้บังคับจาเลยท้งส่ร่วมกันชาระหน้ การท่จาเลยร่วมทาสัญญา
�
�
ี
ี
ั
ี
�
�
ี
�
ว่าจ้างจาเลยท่ 1 ก่อสร้างอาคารและบ้านพักดังกล่าว ถือเป็นกิจการ
ี
่
ี
ั
ึ
ทหน่วยงานของรฐ ซ่งมหน้าท่รกษาความสงบเรยบร้อยของประชาชน
ั
ี
ี
ี
10 สรุปแนว ค�ำวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำลในคดีพิพำทเกี่ยวกับสัญญำ
ี
ั
และค�ำวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล กรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งที่ถึงที่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกัน
ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ 1๔
(พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕6๒)