Page 138 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 138
´ØÅ¾ÒË
ของผูถูกกลาวหาวากระทําความผิด สิทธิดังกลาวเปนผลมาจากมาตรา ๑๑๘ b ประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ทั้งพนักงานอัยการและโจทกรวมไมมีสิทธิที่จะยื่นคํารอง
ในลักษณะดังกลาว เงื่อนไขของการใหมีการตรวจสอบการกักขังก็คือ เมื่อมีการบังคับตาม
หมายจับไปแลว ปญหาวาจะยังคงบังคับตามหมายจับตอไป คือ ยังคงใหกักขังอยูตอไป
หรือควรที่จะยกเลิกการกักขัง คํารองดังกลาวจะตองยื่นใหกับผูพิพากษาที่มีเขตอํานาจ
กลาวคือ กอนที่จะมีการยื่นคําฟองตามมาตรา ๑๒๖ (๑) ประโยคที่หนึ่ง คือ ผูพิพากษาที่เปน
ผูออกหมายจับ สวนเมื่อยื่นคําฟองไปแลวตามมาตรา ๑๒๖ (๒) ประโยคที่หนึ่งประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา ศาลที่มีเขตอํานาจคือศาลที่พิจารณาคดีดังกลาว คํารองในกรณีนี้
ไมมีรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง ผูถูกกลาวหาไมจําตองใหเหตุผลในคํารอง ถือวาเปนการเพียงพอ
แลวหากวาตามคํารองเห็นไดวาผูถูกกลาวหาตองการขอใหศาลตรวจสอบการกักขัง
ศาลจะมีคําวินิจฉัยเมื่อไดมีการสืบพยานดวยวาจาไปแลว ในกรณีที่ผูถูกกลาวหาไดยื่นคํารอง
หรือในกรณีที่ไมมีคํารองแตศาลเห็นวาเปนสิ่งจําเปนที่ตองทําเชนนั้น (มาตรา ๑๑๘ (๑),
(๓), (๔) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) หากไมมีการสืบพยานดวยวาจา
ศาลก็จะพิจารณาจากขอเท็จจริงในสํานวน ซึ่งอนุสัญญาแหงสหภาพยุโรปวาดวยการคุมครอง
สิทธิมนุษยชนในมาตรา ๕ (๔) ไดรับรองสิทธิที่จะใหมีการวินิจฉัยความชอบดวยกฎหมาย
ของการกักขังโดยเร็วและใหทําการปลอยตัวโดยเร็วในกรณีที่การกักขังดําเนินไปโดยมิชอบ
ดวยกฎหมาย คําวินิจฉัยดังกลาวของศาลกระทําในรูปของคําสั่ง
II การคัดคานการกักขัง
เครื่องมือในทางกฎหมายลําดับที่ ๒ ที่มีไวใหแกผูถูกกลาวหาก็คือการคัดคาน
การกักขังซึ่งจะคัดคานไดเพียงครั้งเดียว
การคัดคานการกักขังเปนผลจากมาตรา ๓๐๔ ff ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา ประกอบมาตรา ๑๑๗ (๒) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จะตางกับ
กรณีของการตรวจสอบการกักขังตรงที่การคัดคานการกักขังจะมีผลในทางแทนที่ ซึ่งเปนผล
มาจากมาตรา ๓๐๖ (๒) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่คําคัดคานจะถูกสงตอไป
ยังศาลอุทธรณ (Das Beschwerdegericht) ในกรณีที่ศาลที่มีเขตอํานาจในชั้นตนไดปฏิเสธ
คําคัดคานดังกลาว
มกราคม - เมษายน ๒๕๖๑ ๑๒๗