Page 145 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 145

´ØÅ¾ÒË





                       ๔.  กระบวนการพิจารณากอนมีคําสั่งเกี่ยวกับการปลอยชั่วคราว


                       CPSA มาตรา  ๒๒  เอ  และ  ๒๓  กําหนดวากอนศาลมีคําสั่งเกี่ยวกับการ
              ปลอยชั่วคราวศาลตองรับฟงความคิดเห็นจากทั้งฝายผูถูกกลาวหาและพนักงานอัยการ

              โดยในการฟงความเห็นของพนักงานอัยการนั้นกําหนดไววาตองรับฟงทุกประเภทคดี
              โดยมาตรา ๒๓ บี บัญญัติวา ความคิดเห็นของพนักงานอัยการเปนเพียงความเห็น

              ไมจํากัดดุลพินิจของศาล ทั้งนี้ มาตรา ๒๓ บี ยังบัญญัติตอไปวาศาลอาจสั่งใหพนักงาน

              อัยการและทนายความของผูถูกกลาวหาเสนอขอมูลที่เปนประโยชนในการมีคําสั่งเกี่ยวกับ
              การปลอยชั่วคราวก็ได แตสําหรับขอมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงวาจะมีเหตุการณใดหรือไมมี

              เหตุการณใดเกิดขึ้นนั้นเปนดุลพินิจของคูความในการพิจารณาวาจะเสนอขอเท็จจริง
              ใหศาลทราบหรือไม ในทางปฏิบัติกระบวนการกอนมีคําสั่งจึงตองดําเนินการในรูปของการ

              ไตสวน โดยทั้งสองฝายจะมีโอกาสแถลงขอเท็จจริงหรือนําพยานหลักฐานมาเสนอตอศาล
              ในกรณีของไทย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๘ (๗) บัญญัติทํานองวา

              ถามีคําคัดคานของพนักงานสอบสวน โจทกหรือผูเสียหาย ศาลพึงรับฟง ซึ่งไมไดเปนบทบัญญัติ
              ในลักษณะกําหนดหนาที่ที่ศาลตองแจงใหบุคคลดังกลาวทราบเพื่อมาเสนอขอเท็จจริง

              ตอศาล แมจะมีมาตรา ๑๐๙ ที่กําหนดใหศาลตองถามพนักงานสอบสวนหรือพนักงาน
              อัยการวาจะคัดคานคํารองขอปลอยชั่วคราวหรือไม แตก็กําหนดเฉพาะความผิดที่มีอัตราโทษ

              อยางสูงตั้งแตสิบปขึ้นไป และมีขอยกเวนที่จะงดการถามเสียได สําหรับการรับฟงความเห็นของ

              พยานนั้น กฎหมายสกอตแลนดไมไดบัญญัติไว แตกฎหมายไทยบัญญัติไวในมาตรา ๑๐๘/๒
              วาพยานสําคัญในคดีมีสิทธิคัดคานการขอปลอยชั่วคราวได และเมื่อคัดคานก็ใหศาลพิจารณา

              คําคัดคานนั้นดวย


                       ๕.  เหตุไมอนุญาตใหปลอยชั่วคราว


                       นอกจากปจจัยที่เกี่ยวของกับความผิดที่ถูกกลาวหาแลว CPSA มาตรา ๒๓ ซี บัญญัติ
              เหตุที่จะไมอนุญาตใหปลอยชั่วคราวไว ๔ เหตุ ดังนี้คือ มีความเสี่ยงอยางมาก (substantial

              risk) ที่ผูถูกปลอยชั่วคราวจะหลบหนีหรือไมมาศาลตามนัด มีความเสี่ยงอยางมากที่ผูถูกปลอย
              ชั่วคราวจะกระทําผิดซํ้าระหวางปลอยชั่วคราว มีความเสี่ยงอยางมากที่ผูนั้นจะไปยุงเหยิง

              กับพยานหลักฐานหรือขัดขวางกระบวนการยุติธรรม หรือมีปจจัยที่สําคัญประการอื่น
              ที่ทําใหศาลเห็นวาควรคุมขังบุคคลดังกลาวไว ทั้งนี้ ในมาตราเดียวกันยกตัวอยางบัญญัติ





              ๑๓๔                                                             เลมที่ ๑ ปที่ ๖๕
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150