Page 166 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 166
´ØÅ¾ÒË
คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๖๑๓๖/๒๕๕๗
ป.วิ.อ. มาตรา ๑๘๕, ๒๑๕, ๒๒๕
ป.อ. มาตรา ๘๓, ๒๘๘, ๒๙๕
จากพฤติการณของจําเลยที่ ๒ ที่พบเห็นผูเสียหายที่ ๑ ขับรถจักรยานยนต
พาเด็กหญิง ม. ซึ่งเคยเปนคนรักของจําเลยที่ ๒ มาซื้อของ จําเลยที่ ๒ จึงขับรถจักรยานยนต
ติดตามไปปาดหนารถของผูเสียหายที่ ๑ และใชอาวุธมีดชี้หนาบังคับใหหยุดรถ หลังจากนั้น
จําเลยที่ ๑ ขับรถจักรยานยนตติดตามมาโดยมีคนรายนั่งซอนทายมาจอดในบริเวณที่เกิดเหตุ
แลวคนรายใชอาวุธมีดฟนผูเสียหายที่ ๑ ทันที และหลบหนีไปดวยกันยอมบงชี้ชัดวา จําเลยที่ ๒
มีเจตนารวมสมคบกับพวกมาทํารายผูเสียหายที่ ๑ ฟงไดวา จําเลยที่ ๒ มีเจตนารวมกับพวก
ในการใชอาวุธมีดฟนผูเสียหายที่ ๑ จริง แตการที่พวกของจําเลยที่ ๒ ใชอาวุธมีดฟนผูเสียหาย
ที่ ๑ ที่ศีรษะซึ่งเปนอวัยวะสําคัญ แตก็ฟนเพียงครั้งเดียว ในขณะที่ผูเสียหายที่ ๑ ไมทันระวังตัว
ไมไดตอสูหรือมีผูใดขัดขวาง หลังจากนั้นก็ไมปรากฏวาพวกจําเลยที่ ๒ ฟนผูเสียหายที่ ๑ ซํ้าอีก
ทั้งบาดแผลที่ผูเสียหายที่ ๑ ไดรับ มีความยาว ๕ เซนติเมตร ไมลึกถึงกะโหลกศีรษะ
สามารถรักษาไดภายใน ๗ ถึง ๑๔ วัน แสดงวาไมไดฟนโดยแรง ทั้งๆ ที่เปนอาวุธมีดขนาดใหญ
ที่สามารถใชฟนทําอันตรายตอชีวิตไดโดยฟนเพียงครั้งเดียว พฤติการณแหงคดีคงฟงไดเพียงวา
จําเลยที่ ๒ กับพวกมีเจตนาทํารายผูเสียหายที่ ๑ เทานั้น ไมมีเจตนาฆาผูเสียหายที่ ๑
จําเลยที่ ๒ จึงไมผิดฐานพยายามฆา และเปนเหตุในสวนลักษณะคดี จําเลยที่ ๑ ซึ่งถูกฟอง
กลาวหาวารวมกระทําความผิดยอมไดรับประโยชนดวย แมคดีสวนของจําเลยที่ ๑ จะยุติแลว
ศาลฎีกาก็มีอํานาจพิพากษาตลอดไปถึงจําเลยที่ ๑ ได ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๘๕ ประกอบ
มาตรา ๒๑๕ และ ๒๒๕
คดีนี้ เดิมศาลชั้นตนมีคําสั่งใหพิจารณาและพิพากษารวมกับคดีอาญาหมายเลข
แดงที่ ๗๑/๒๕๕๖ ของศาลชั้นตน โดยจําเลยในคดีอาญาดังกลาวคือจําเลยที่ ๑ ในคดีนี้
และคดีหมายเลขแดงที่ ๗๑/๒๕๕๖ ของศาลชั้นตนยุติแลวตามคําพิพากษาศาลอุทธรณภาค ๖
คงขึ้นมาสูการพิจารณาของศาลฎีกาเฉพาะคดีนี้
โจทกฟองทั้งสองสํานวนขอใหลงโทษจําเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓,
๘๐, ๘๓, ๙๑, ๒๘๘, ๓๗๑ ริบอาวุธมีดดาบของกลาง และนับโทษหรือระยะเวลาควบคุม
เพื่อฝกอบรมของจําเลยที่ ๑ ทั้งสองคดีตอเนื่องกัน
มกราคม - เมษายน ๒๕๖๑ ๑๕๕