Page 168 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 168
´ØÅ¾ÒË
โจทกฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยวา มีปญหาที่จะตองวินิจฉัยตามฎีกา
โจทกมีวา จําเลยที่ ๒ มีเจตนารวมกับคนรายใชมีดฟนผูเสียหายที่ ๑ หรือไม เห็นวา จําเลยที่ ๒
มีเจตนารวมสมคบกันมาทํารายผูเสียหายที่ ๑ ในชั้นอุทธรณจําเลยที่ ๒ ก็โตแยงเพียงวา
การกระทําของพวกของจําเลยมีเพียงเจตนาทํารายผูเสียหายที่ ๑ เทานั้น ไมมีเจตนาฆา
ไมไดโตแยงวาไมไดมีเจตนารวมกับพวกในการทํารายผูเสียหายที่ ๑ พยานหลักฐานที่โจทก
นําสืบประกอบคํารับสารภาพของจําเลยที่ ๒ ฟงไดเปนที่พอใจแลววา จําเลยที่ ๒ มีเจตนา
รวมกับพวกในการใชอาวุธมีดฟนผูเสียหายที่ ๑ ฎีกาโจทกขอนี้ฟงขึ้น สําหรับปญหาวา
การกระทําของจําเลยที่ ๒ กับพวก แสดงวามีเจตนาฆาผูเสียหายที่ ๑ หรือไม เห็นวา
แมพวกของจําเลยที่ ๒ จะใชอาวุธมีดฟนผูเสียหายที่ศีรษะซึ่งเปนอวัยวะสําคัญ แตพวกจําเลย
ก็ฟนเพียงครั้งเดียว ในขณะที่ผูเสียหายไมทันระวังตัว ไมไดตอสู หรือมีผูใดเขาขัดขวาง
หลังจากนั้นก็ไมปรากฏวาพวกจําเลยฟนผูเสียหายซํ้าอีก ทั้งบาดแผลที่ผูเสียหายที่ ๑ ไดรับ
มีความยาว ๕ เซนติเมตร ไมลึกถึงกะโหลกศีรษะ สามารถรักษาใหหายไดภายใน ๗ ถึง ๑๔ วัน
แสดงวาพวกจําเลยไมไดฟนโดยแรง ทั้งๆ ที่เปนอาวุธมีดขนาดใหญที่สามารถใชฟนทําอันตราย
ตอชีวิตไดโดยฟนเพียงครั้งเดียว พฤติการณแหงคดีคงฟงไดวาจําเลยที่ ๒ กับพวกมีเจตนาทําราย
ผูเสียหายที่ ๑ เทานั้น ไมมีเจตนาฆาผูเสียหายที่ ๑
อนึ่ง พฤติการณที่พวกของจําเลยที่ ๒ ใชมีดฟนผูเสียหายที่ ๑ โดยมีเจตนาเพียง
ทํารายรางกาย ยอมเปนเหตุในสวนลักษณะคดี จําเลยที่ ๑ ซึ่งถูกฟองกลาวหาวารวมกระทํา
ความผิดยอมไดรับประโยชนดวย ดังนั้น แมคดีสวนของจําเลยที่ ๑ จะยุติแลว ศาลฎีกาก็มี
อํานาจพิพากษาตลอดไปถึงจําเลยที่ ๑ ได ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๑๘๕ ประกอบมาตรา ๒๑๕ และ ๒๒๕
พิพากษาแกเปนวา จําเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕,
๘๓ ลดมาตราสวนโทษคนละกึ่งหนึ่งแลว คงจําคุกคนละ ๑ ป จําเลยทั้งสองใหการรับสารภาพ
ลดโทษใหอีกกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจําคุกคนละ ๖ เดือน
สําหรับจําเลยที่ ๑ เมื่อรวมกับโทษพยายามฆาในสํานวนหลัง กับความผิดฐานพาอาวุธมีดแลว
เปนจําคุกจําเลยที่ ๑ มีกําหนด ๕ ป ๖ เดือน ปรับ ๑๐๐ บาท สวนจําเลยที่ ๒ เมื่อรวมกับ
ความผิดฐานพาอาวุธมีดแลวเปนจําคุก ๖ เดือน ปรับ ๕๐ บาท อาศัยอํานาจตามพระราชบัญญัติ
ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา
๑๔๒ (๑) และวรรคทาย ใหเปลี่ยนโทษจําคุกเปนสงจําเลยที่ ๑ ไปฝกอบรมที่ศูนยฝกอบรมเด็ก
มกราคม - เมษายน ๒๕๖๑ ๑๕๗