Page 177 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 177

´ØÅ¾ÒË





              คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๖๖๐๖/๒๕๓๘


                       ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๒๔๖ (๖) ศาลจะสั่งใหจดชื่อบริษัทกลับคืนเขาสูทะเบียน
              ก็ตอเมื่อพิจารณาไดความเปนที่พอใจวาในขณะที่ขีดชื่อบริษัทออกจากทะเบียนนั้น บริษัท

              ยังทําการคาขายหรือยังประกอบการงานอยู หรือมิฉะนั้นเห็นวาเปนการยุติธรรมที่จะให
              บริษัทไดกลับคืนขึ้นทะเบียนอีก เพราะฉะนั้นคํารองขอใหศาลมีคําสั่งดังกลาวจึงตองอางเหตุ

              อยางใดอยางหนึ่ง และตองพิสูจนใหศาลเห็นตามขอกลาวอางนั้นดวย บริษัท ท. เปนลูกหนี้
              ผูรองอยู การที่บริษัท ท. ถูกขีดชื่อเปนบริษัทราง ผูรองยอมไมอาจดําเนินคดีแกบริษัท

              ดังกลาวได


              คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๕๖๔๑/๒๕๕๘

                       ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๒๗๓/๓ และ ๑๒๗๓/๔ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. แกไข

              เพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๑๙ และ
              มีผลใชบังคับเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๑ บัญญัติใหบริษัทนั้นสิ้นสภาพนิติบุคคลตั้งแต

              เมื่อนายทะเบียนขีดชื่อบริษัทออกเสียจากทะเบียน และบริษัทที่ถูกขีดชื่อจะกลับคืนสูทะเบียน
              มีฐานะนิติบุคคลอีกครั้งเมื่อศาลสั่งใหจดชื่อบริษัทกลับคืนเขาสูทะเบียน เมื่อปรากฏวา

              ในวันที่โจทกยื่นฟองจําเลยที่ ๑ และที่ ๒ เปนคดีลมละลายนี้ (วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๔)
              ศาลจังหวัดนครสวรรคยังมิไดมีคําสั่งใหจดชื่อจําเลยที่ ๑ และที่ ๒ กลับคืนเขาสูทะเบียน
              ขณะฟองจําเลยที่ ๑ และที่ ๒ จําเลยจึงไมมีฐานะนิติบุคคลที่โจทกฟองได แมตอมาศาลจังหวัด

              นครสวรรคมีคําสั่งใหจดชื่อจําเลยที่ ๑ และที่ ๒ กลับคืนเขาสูทะเบียนเมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน
              ๒๕๕๔ และตามมาตรา ๑๒๗๓/๔ กําหนดใหถือวาบริษัทนั้นยังคงอยูตลอดมาเสมือนมิได

              มีการขีดชื่อออกเลย ก็เปนเพียงการรับรองสภาพนิติบุคคลภายหลังศาลมีคําสั่งเทานั้น
              หาทําใหโจทกซึ่งไมมีอํานาจฟองมาตั้งแตตนกลับกลายเปนมีอํานาจฟองไปไม


              คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๘๕๑/๒๕๕๙


                       ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๒๓๔ บัญญัติใหเจาหนี้ผูใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้จะตองขอ
              หมายเรียกลูกหนี้เขามาในคดีนี้ดวย เพราะการที่เจาหนี้ใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้ในกรณีที่

              ลูกหนี้ขัดขืนหรือเพิกเฉยไมใชสิทธิเรียกรองของตนเปนเหตุใหเจาหนี้เสียประโยชนเปนสิทธิ

              ของเจาหนี้ที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมาย จึงตองการใหลูกหนี้ซึ่งทราบรายละเอียดหนี้สิน






              ๑๖๖                                                             เลมที่ ๑ ปที่ ๖๕
   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182