Page 176 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 176
´ØÅ¾ÒË
มีบทบัญญัติไวในประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยแลวตามมาตรา ๓ แหงประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชยใหยกเลิกกฎหมายเกาเสีย อนึ่ง คดีชนิดนี้ไดมีคําพิพากษาศาลฎีกา
ที่ ๙๔๘/๒๔๗๔ ในระหวางนางแส ผูอนุบาลนายฮวดผูวิกลจริต โจทก นางผูก คลายสุบรรณ
จําเลย เคยตัดสินเปนบรรทัดฐานในปญหาเรื่องอายุความในคดีที่เกิดขึ้นในระหวาง
เวลากระหนาบคาบเกี่ยวในการใชประมวลกฎหมายใหม และยกเลิกกฎหมายเกานั้น เพื่อ
จะใชบังคับคดีใหคูความไดรับความยุติธรรมอยางยิ่งดวยกันทุกฝาย ใหตั้งตนนับกําหนดอายุ
ความตั้งแตวันประกาศใชประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย เพราะฉะนั้นคดีนี้เมื่อตั้งตน
นับอายุความตั้งแตวันประกาศใชประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยคือวันที่ ๑ มกราคม
พ.ศ. ๒๔๖๘ จนถึงวันโจทกฟองเปนเวลา ๖ ปเศษ คดีของโจทกจึงเปนอันขาดอายุความ
ฟองรองเสียแลว ฎีกาของโจทกฟงไมขึ้น...
การตีความเพื่อปรับบทมาตรา ๑๒๗๓/๔ กับขอเท็จจริงในคดีตามคําพิพากษา
ศาลฎีกาที่ ๑๐๑๐๐/๒๕๕๙ เปนการตีความที่มีวัตถุประสงค “เพื่อจะใชบังคับคดีใหคูความ
ไดรับความยุติธรรมอยางยิ่งดวยกันทุกฝาย” โดยศาลฎีกาใหเริ่มนับระยะเวลา ๑๐ ป ในการ
ยื่นคํารองขอใหบริษัทกลับคืนสูทะเบียนตั้งแตวันที่กฎหมายใหมมีผลใชบังคับ มิใชเริ่มนับแต
วันที่นายทะเบียนหุนสวนบริษัทขีดชื่อบริษัทออกจากทะเบียนตามถอยคําในตัวบท ปจจุบันมี
การแกไขเพิ่มเติมและออกกฎหมายใหมหลายฉบับ กฎหมายบางฉบับอาจมีลักษณะเปนการ
จํากัดสิทธิของคูความที่เคยมีอยูแตเดิมหรือคูความไดรับถูกกระทบสิทธิจากกฎหมายใหม
ถึงแมไมมีบทเฉพาะกาลสําหรับกฎหมายเชนวานี้ คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๑๐๐/๒๕๕๙
ก็สามารถเปนแนวทางในการตีความกฎหมายเพื่อใหเกิดความเปนธรรมในการใชกฎหมาย
ในระยะเปลี่ยนผานได
การขอใหศาลสั่งใหจดชื่อหางหุนสวนหรือบริษัทที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน
กลับคืนเขาสูทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๒๗๓/๔ เปนขั้นตอน
ที่มีความสําคัญในการดําเนินคดีแกหรือโดยนิติบุคคลนั้น เพราะผูที่จะเปนคูความในศาลได
จะตองมีสภาพบุคคล การที่นายทะเบียนขีดชื่อหางหุนสวนหรือบริษัทใดออกจากทะเบียน
เพราะเหตุตามมาตรา ๑๒๗๓/๑ หรือ ๑๒๗๓/๒ มีผลใหหางหุนสวนหรือบริษัทนั้นสิ้นสภาพ
นิติบุคคลตั้งแตเมื่อนายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียนตามมาตรา ๑๒๗๓/๓ จึงไมอาจเปน
คูความไดซึ่งเปนปญหาเกี่ยวกับอํานาจฟองของโจทก
มกราคม - เมษายน ๒๕๖๑ ๑๖๕